เร่งหยุดการระบาดโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว
ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ จากพื้นที่สีแดงเข้มเข้าเขตพื้นที่ทุกกรณี
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ฉบับที่ 52 ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ๓ สัญชาติ (เมียนมา ลาว และกัมพูชา) จากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม พื้นที่ควบคุมสูงสุดและพื้นที่ควบคุมเข้ามาในเขตพื้นที่ทุกกรณี เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพและชีวิตของทั้งแรงงานต่างด้าว และแรงงานไทยในสถานประกอบการ รวมทั้ง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชน และประชาชนโดยรวม
กรณีจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว ๓ สัญชาติ จากเขตพื้นที่จังหวัดอื่นเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัด
สุราษฎร์ธานี สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องเป็นแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงาน ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยวิธี RT-PCR จากโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และผลตรวจระบุ ไม่พบเชื้อก่อนเดินทางเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมง และนายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVI0-19) ก่อนนำนำหนังสืออนุญาตการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวจากจังหวัดต้น ยื่นให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายในเวลา ๒ วัน นับแต่วันที่แรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้าสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ส่วนการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อทำงานกับนายจ้างรายใหม่ ให้ยื่นแบบแจ้งการจ้างงานและแบบแจ้งการเข้าทำงาน พร้อมหลักฐานการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) โดยวิธี RT-PCR จากโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายใน ๕ วัน นับจากแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานกับนายจ้างรายใหม่ในเขตพื้นที่
หาก นายจ้างและแรงงานต่างด้าว ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะมีความผิดตามมาตรา ๑๘ แห่ง พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา ๕๒ แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีการเน้นย้ำให้จุดตรวจ จุดคัดในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดกวดขันสอดส่องและเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งแรงงานต่างด้าว และคนไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน