วันนี้เครือข่ายประชาชนอำเภอจะนะจำนวนร่วม 200 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสงขา โดยมีนายรุ่งโรจน์ และสุม ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา และผดุงเดช ลือปียะพาณิชย์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา ออกมาพบกับกลุ่มเครือข่ายประชาชนอำเภอจะนะ พร้อมรับมอบหนังสือจากตัวแทนเครือข่ายประชาชนอำเภอจะนะ ซึ่งมีข้อความถึงนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้นางสาวมณี อนันทบริพงค์ตัวแทนกลุ่มเครือข่ายจะนะ ได้อ่านจดหมายข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี มีใจความว่า ขอสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอำเภอจะนะจังหวัดสงขลา และขอความเป็นธรรมให้กับคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ ที่ต้องการการพัฒนา โดยขอให้ทุกภาคส่วนฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ทุกกลุ่มอย่างรอบด้าน ซึ่งตามที่มีกลุ่มประชาชนในพื้นที่ และจัดต่างพื้นที่เดินทางมาแสดงจุดยืน และยื่นหนังสือคัดค้านการดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะจังหวัดสงขลาเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 21 กันยายน และ วันที่ 28 กันยายน 2563 ประมาณ 40 คน และยังมีการเชิญชวนกลุ่มการเมืองลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 โดยเลือกพื้นที่เฉพาะที่มีกลุ่มคัดค้านเท่านั้น เพื่อให้เกิดกระแสและให้เกิดความสนใจ โดยมีในทางการเมือง พวกเราในนามตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ ประกอบด้วยหลากหลายอาชีพ หลากหลายหมู่บ้าน หลากหลายตำบล ในพื้นที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เห็นการกระทำดังกล่าวแล้ว เห็นว่าการกระทำที่ไม่มองเห็นถึงผลประโยชน์ส่วนรวม เป็นการกระทำที่ซ้ำซากไม่ยอมรับความเห็นจากคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ และที่สำคัญคือ ที่ไม่ยอมหาทางออกของปัญหาร่วมกัน พวกเรารู้สึกไม่เป็นธรรมต่อประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของพื้นที่ ที่ต้องการอยากให้มีการพัฒนาในพื้นที่บ้านเกิดตัวเอง 4 - 5 เดือนที่ผ่านมากว่า 300 ครอบครัว ที่สมาชิกในครอบครัวต้องไปขายแรงงานประมงที่ประเทศมาเลเซีย และอีกกี่ร้อยครอบครัว ที่ไปขายแรงงานในร้านต้มยำกุ้ง ช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ เด็กบ้านเรากี่คนที่จบมาแล้ว ที่มีงานใกล้บ้านให้ทำ จนต้องไปอยู่ที่ระยองกันหมดแล้ว กี่คนที่ไม่เรียน เพราะครอบครัวไม่มีรายได้ หรือเรียนไปก็ไม่มีงานทำ กลับเข้าสู่วงจรเดิม ปัญหายาเสพติด อาจญากรรมที่เพิ่มมากขึ้น พวกเราทุกคนหวงแหนบ้านเกิด ไม่น้อยไปกว่าใครทุกคน ล้วนไม่มีใครต้องการทำลายบ้านเกิดของตัวเอง เพราะที่จริงแล้ว จะนะก็คือบ้านเรา แต่วันนี้กับปัญหาที่คนในชุมชนประสบ และแนวโน้มการพัฒนาตามยุคสมัยของโลกก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เราก็ต้องยอมรับความจริง เพราะหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้น ก็ถือเป็นโอกาสของคนจะนะจังหวัดสงขลา ที่จะได้รับประโยชน์จากการพัฒนาขนาดใหญ่ในพื้นที่ ดังนั้นขอได้โปรดให้กลุ่มผู้คัดค้าน หันหน้าเข้ามาคุยกันด้วยสันติ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ทุกการพัฒนาย่อมมีสิ่งที่ต้องแลก ซึ่งพวกเราตระหนักดีในข้อนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของคนในชุมชน ทุกคนต้องตรวจสอบ เรียกร้อง เสนอแนะ หรือแม้แต่ปฏิเสธบางเรื่อง ที่คิดว่าทำแล้วเกิดผลเสียมากกว่าผลดี เพราะที่ผ่านมาพวกเราก็รับทราบข้อมูล พร้อมทั้งมีการเสนอแนะ แลกเปลี่ยน พร้อมสร้างความเข้าใจแก่สมาชิกในชุมชนอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา และมีความพร้อมที่จะตรวจสอบ เสนอแนะความคิดเห็นตามสิทธิและกฎหมายในกระบวนการต่อไปไม่ว่าจะเป็นEIA หรือ EHIA ในอนาคต วันนี้พวกเราในนามตัวแทนประชาชนอำเภอจะนะ ที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายโครงการ และเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการดำเนินโครงการ ขอความเป็นธรรมจากทุกภาคส่วนพิจารณาขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวต่อไป โดยให้ความสำคัญกับการรับข้อมูลข้อเท็จจริงจากประชาชนในพื้นที่อย่างรอบด้าน คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง และขอให้หน่วยงานของรัฐและที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนดำเนินการต่อไปตามกฎหมายให้ครบถ้วน ตามกระบวนการต่อไป