ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผย ครูใต้มั่นใจ มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 ช่วงเปิดเทอม พร้อมเรียกร้องสิทธิให้กับครู

ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ เผย ครูใต้มั่นใจ มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 ช่วงเปิดเทอม  พร้อมเรียกร้องสิทธิให้กับครู
ที่ห้องประชุมสำนักงานสกสค. นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นประธานที่ประชุมร่วมกับประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดยะลา นราธิวาสและสงขลา พร้อมคณะกรรมการสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการประชุม เพื่อ ทราบความเคลื่อนไหว และความห่วงใยต่อ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งสถานการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 และ การวางมาตรการการดูแลความปลอดภัยครูในช่วงเปิดการเรียนการสอน ในวันที่ 1 ก.ค.ที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ยังประชุมในการขับเคลื่อนกิจกรรมของสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยมีวาระต่างๆดังนี้ 1. การจัดงานรำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ ครั้งที่ 11 2. การจ้างพนักงานธุรการโรงเรียน 3. ความคืบหน้าเงินเยียวยาทายาทผู้ได้รับผลกระทบ 4 ล้านบาท 4. การยื่นข้อเสนอในการพิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ (ศอ.บต.)
นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ในวันนี้ทางสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมประชุมปรึกษาหารือเพื่อ ทราบความเคลื่อนไหว และความห่วงใยต่อ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งสถานการณ์ของ การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 และสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งหลังจากที่มีการสอบถามและตรวจสอบข้อมูล ในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ครูและบุคลากรทางการศึกษา และโรงเรียนทุกโรง มีความพร้อมในการเปิดเรียน นั้น หมายถึงว่าคุณภาพการศึกษา ต้องเดินไป ถึงแม้ว่า จะมี สถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมถึง สถานการณ์ความไม่ปลอดภัย การเปิดเรียนในครั้งนี้ จะมีรูปแบบแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนที่จะออกแปลว่าเมื่อมาเรียนแล้วนักเรียนมีความปลอดภัย ของโรคระบาดโควิค-19 ได้อย่างไร เช่นในบางกลุ่มที่เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ จะกำหนดให้สลับการมาเรียน โรงเรียนขนาดเล็ก อาจจะสลับในวันหยุด ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบของโรงเรียนแต่ละโรง ต้องขอขอบคุณในทุกภาคส่วน รวมถึง สพฐ. ที่เข้ามาติดตาม ห่วงใย ครูและนักเรียน ในการจัดเรียนทางการศึกษาในช่วงวิกฤต ซึ่งรูปแบบการเปิดเรียนทั้งหมดจะมีการนำเสนอเข้าสู่ คณะกรรมการศึกษาจังหวัด เพื่อ เห็นชอบต่อแผนที่ดำเนินการ เพื่อติดตามตรวจสอบ ทั้งหมดก็คือความพร้อมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมั่นในรัฐบาล เชื่อมั่นในกระทรวงศึกษาธิการว่าเชื่อ ห่วงใย ครูและบุคลากรทางการศึกษาจริงๆ
ตนเองในฐานะสมาพันธ์ครู ทำงานร่วมกับ เพื่อนครูในพื้นที่ มากว่า 17 ปี วันนี้ เราก็ต้องมีความห่วงใยในทุกเรื่อง ที่เกิดกับครู เพื่อให้ครูมีขวัญและกำลังใจ ทั้ง 2 เรื่อง คือเรื่อง ความปลอดภัย และ เรื่องของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ยืนยันว่าพี่น้องเพื่อนครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีขวัญและกำลังใจ ในการทำงานในช่วงวิกฤต จากสถานการณ์จะเกขึ้นก็ตาม เพื่อให้สมกับเป็นครูมืออาชีพที่แท้จริง ส่วนเรื่องของความปลอดภัยซึ่งเป็นเรื่องของงานหลัก ซึ่งถ้าดูข้อมูลย้อนหลังเมื่อตั้งแต่ปี 60-61-62 จนมาถึงปัจจุบัน ครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่พบกับ ความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งนี้เป็นสื่อถึงสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่ว่าเราอยู่ในความประมาท แม้ว่าเหตุการณ์ไม่เกิดขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในขณะนี้จะไม่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นทุกจังหวัด โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ผมเชื่อมั่นว่า จะต้องประชุมมาตรการ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายพลเรือน เพื่อวางมาตรการ ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับครู และบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนให้เกิดความปลอดภัยในขั้นสูงสุด เพราะขณะนี้เรารับวิบากกรรมเรื่องโควิค-19 แล้ว เรื่องความปลอดภัยก็จะต้องเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งทางสมาพันธ์ฯ ยืนยันว่าหลังจากที่ได้คุยที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเราก็มีความมั่นใจว่าการเรียนการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่ามกลางวิกฤติ ก็น่าจะบรรลุวัตถุประสงค์ตามคุณภาพที่ จะให้เป็น ให้เด็กเป็นคนดี มีคุณธรรม และอยู่ในสังคมอย่างสงบสุขได้อย่างปลอดภัย
ในส่วนชองทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ได้มีมติให้ นักเรียน นักศึกษา ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ให้มีการกักตัวนักเรียนนักศึกษา เป็นเวลา 14 วัน ก่อนมีการเปิดการเรียนการสอน เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น ทาง ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้เปิดเผยว่า ในเรื่องนี้ ทางโรงเรียนได้มีการวาง มาตรการ ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะ นักเรียนมีการรับมือกับนักเรียนนักศึกษา ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัดซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยทางสมาพันธ์ เห็นด้วย กับการที่ให้มีการกักตัวนักเรียน นักศึกษาที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง และให้ทางโรงเรียน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งหากมีผู้ติดเชื้อ 1 คน และต้องมาติดเพิ่มอีก 10 คน มันเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการ สถานศึกษา และ ประธานสมาพันธ์ครูด้วย ก็เป็นห่วงว่า หากมีการเปิดโรงเรียนและเกิดมีนักเรียนติดเชื้อขึ้นมา จะต้องมีการรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งอันนี้ต้องมีการป้องกันไว้ก่อนและเห็นด้วย กับมาตรการเหล่านี้ และต้องขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ที่ดูแลครู และพี่น้องประชาชนมาด้วยดี จนกระทั่งว่า สถานการณ์โควิดที่เข้ามา กลับสู่ ปกติ และโรงเรียนมีความพร้อมที่จะมีการเปิดเรียนการสอนในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้
ตนในฐานะประธานสมาพันธ์ครูร่วม 17 ปี ต้องขอบคุณหน่วยงานของรัฐ ทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราไม่ได้คิดในสิ่งที่เราได้มา แต่มันเป็นเรื่องความสุขทางใจที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่สูญเสีย พวกเราไม่เคยลืมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปี 47 ไม่ได้ย้อน ไม่ได้ซ้ำเติม แต่เป็นความรู้สึก กับสถานการณ์ที่สร้างที่สร้างสติ เตือนใจว่า เราต้องทำงานเพื่อครู ทำงานเพื่อเด็ก เพราะฉะนั้นสิทธิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินเสี่ยงภัย กับเงินเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา 3,500 บาท เรื่องเลื่อนขั้นกรณีพิเศษ ชำนาญการพิเศษในเกณฑ์ที่ชื่อว่า ว.10 ในเรื่องเลื่อนขั้นกรณีพิเศษ ศอ.บต. การบรรจุทายาด ในขณะนี้รายล่าสุดของกรมอาชีวะ ได้บรรจุให้กับ ลูกนักการภารโรงได้เป็นครูขึ้นมา ผมอยากจะบอกคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัยที่หน่วยงานของรัฐพี่น้องทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองที่ดูแลตรูอย่างดี ผมสัมผัสตรงนี้ได้ตั้งแต่ 47 ซึ่งวันนี้สิ่งที่ประสบความสำเร็จ แต่ไม่ถือว่าเป็นเรื่องของความสำเร็จ แต่เป็นสิ่งที่เราได้มาแลกกับความสูญเสียของครูที่เสียไป 182 ราย ที่ทุกพลภาพ จำนวน 10 ราย ที่ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก คนเหล่านี้ ยังรอคอยความหวังที่ให้มาช่วยต่อไป
ประเด็นปัญหาที่ทางสมาพันธ์ยังคงเรียกร้องต่อไป และ เป็นการเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรม เพื่อชีวิตที่อยู่ได้ของครู ก็คือ 1 เรื่องของเรื่องของการทายาท ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ จากการเรียกร้องไปยังสำนักปลัด ทราบจากสำนักปลัดว่า ขณะนี้สำนักงบประมาณกำลัง ติดตามเรื่องข้อมูลยู่ว่า เงิน 4 ล้านบาทจะจ่ายยังไง อนุมัติให้กลุ่มไหนบ้าง ก็เป็นความหวังอย่างหนึ่ง คิดว่ารัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการยุคนี้ จะต้องช่วยดูแล
เรื่องที่ 2 เรื่องพนักงานครูธุรการ ขณะนี้ยังไม่มั่นใจในความมั่นคงต่อวิชาชีพ อยากให้กระทรวงศึกษาธิการได้บรรจุเป็นข้าราชการและก็มีเงินเสี่ยงภัยให้คนละ 2,500 บาท คนเหล่านี้เป็นคนในพื้นที่ ล้สน ๆ และไม่ย้ายไปไหนแน่นอน และจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันทางการศึกษา
และเรื่องที่ 3 การเลื่อนขั้นกรณีพิเศษ ศอ.บต. ไม่ได้เรียกร้อง โควต้าว่าไปตาม กระบวนการการจัดการให้เป็นไปตามกลไกของระบบราชการ แต่เรียกร้องว่า กระบวนการการจัดสรรให้เป็นไปตามกลไกของระบบราชการ จากจังหวัดหรือจากอำเภอ ควรที่จะมีที่สำนักงานเขตพื้นที่ เขตพื้นที่ก็ไปที่โรงเรียน เพราะเกณฑ์ของมันระบุชัดว่า คนที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นกรณีพิเศษ จะต้อง เป็นคนที่มีผลงานดีเด่นและตั้งอยู่ในพื้นที่ยากลำบาก พื้นที่เสี่ยงภัย ฝากไปยังเลขา ศอ.บต.ช่วย ทบทวนและดูแล ให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการส่วนไหน ทุกคนต้องทุกคนมีความสำคัญยิ่งต่อแผ่นดินนี้ เพราะทุกคนช่วยกันรักษาให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีคุณภาพ อย่างสมศักดิ์ศรี
สุดท้ายนี้ ทางสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องของขอบคุณ นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คนใหม่ ที่ได้ประสานไปว่า จะของบประมาณในการจัดงานรำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ ครั้งที่ 11 สุดท้ายนะครับขอบคุณครับคุณใหม่ที่ผมประสานไปว่าจะออกประมาณ ครั้งที่ 11 ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะจัดเมื่อไหร่แต่คิดว่าเดือนกันยายน น่าจะจัดได้ ก็ขอเชิญชวน ประชาชนที่ที่มีครูอยู่ในหัวใจ คนที่รักครูคนที่เข้าใจสถานการณ์ มาร่วมแสดงพลัง แสดงเชิดชูครู วีรชนชายแดนใต้ ให้มีศักดิ์ศรี และมีชื่อเสียงต่อไป ขอฝากความหวังไว้ทั้งหมดให้กับกระทรวงศึกษาธิการ รัฐบาล และรัฐมนตรี ช่วยดูแล ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อ เพราะเป็นกลไกสำคัญของการศึกษาที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความเจริญต่อไป