พ่อเมืองลำพูน เปิดอาคารลำพูนเนอร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุแบบครบวงจร

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดอาคารศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุลำพูนเนอร์สซิ่งโฮม นายแพทย์วรวิทย์ วรภัทรากุล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ให้การต้อนรับ โดยมี ท่านพระครูวิธานปริยัติคุณ เจ้าอาวาสวัดแจ้งพรหมนคร เจ้าคณะอำเภอเมืองสิงห์บุรี ดร.นิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และอาจารย์อินสนธิ์ วงค์สาม ศิลปินแห่งชาติ ร่วมงาน ท่ามกลางแขกบุคคลสำคัญที่มาร่วมงานมากมาย

นายแพทย์วรวิทย์ วรภัทรากุล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวว่า “ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุแห่งนี้เกิดจากแรงบันดาลใจของเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ที่ออกแบบชีวิตหลังเกษียณว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ดูแลซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนผู้รู้ใจ มีมิตรภาพอันอบอุ่นและยืนยาว เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ก็มีเพื่อนๆอีกหลายคนที่ชอบในความคิดของเรา และอยากใช้ชีวิตบั้นปลายที่สงบสุข เช่นเดียวกับที่เราได้ออกแบบไว้ ประกอบกับแนวความคิดที่ผู้สูงอายุจะใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนครอบครัวใหญ่เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น เราจึงปรับขยายแบบแปลนจากเดิมที่จะอยู่ร่วมกัน 3-5 ครอบครัว มาเป็นศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุที่มีบริการที่ได้มาตรฐาน มีระบบงานอันทันสมัย โดยก่อนที่จะสร้างศูนย์แห่งนี้ เราได้ระดมความคิดเห็นจากเพื่อนๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งได้เยี่ยมชมเพื่อศึกษาข้อดีจาก ศูนย์ต่างๆ จนในที่สุดได้ข้อสรุปซึ่งกระผมจะขอ รายงานให้ท่านประธานและแขกผู้มีเกียรติได้ทราบดังต่อไปนี้”

โดยอาคารลำพูนเนอร์สซิ่งโฮม ศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุแบบครบวงจร ออกแบบโดยเน้นถึงความปลอดภัยของผู้สูงอายุ ทำทางลาดที่ไม่ชันจนเกินไป มีราวจับป้องกันการหกล้มทั้งในบริเวณทางเดินและห้องน้ำ และที่เราเน้นมากคือ ความโปร่งสบาย เราทำฝ้าสูง 4 เมตร เหนือฝ้ามีทั้งเครื่องดูดอากาศจากอาคารและเครื่องเป่าอากาศออกนอกอาคาร จึงมั่นใจได้ว่าอากาศในอาคารจะสดชื่น ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ

นอกจากนี้ เตียงนอนของผู้สูงอายุจะวางห่างกันราว 2 เมตร ทั้งมีผนังเบาเพื่อแยกเป็นสัดส่วน ทำให้ผู้อยู่ไม่รู้สึกอึดอัด เนื่องจากในขณะนี้ ประเทศของเรากำลังมีปัญหามลภาวะจากฝุ่นในอากาศ เราจึงติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่มีตัวกรอง HEPA ซึ่งสามารถกรองฝุ่น PM 2.5 เพื่อความปลอดภัยของผู้สูงอายุ โดยมีเจ้าหน้าที่ค่อยดูแลปฏิบัติงานตามแนวทางที่เราต้องการ คือมีทั้งความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมและมีจิตใจที่จะดูแลผู้สูงอายุ เราจึงตั้งโรงเรียนในเครือของเราเอง ชื่อว่าโรงเรียนการุณย์บริบาล ซึ่งนอกจากจะผลิตบุคลากรให้เรา เรายังทำเพื่อสร้างอาชีพให้กับเยาวชนอีกด้วย

“ลำพูนเนอร์ซิ่งโฮม เกิดจากความตั้งใจที่จะเป็นที่อยู่ของเพื่อนๆ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะได้กำไรสูงสุด จึงเป็นธุรกิจในแนวมิตรภาพ เราได้สร้างศูนย์ขึ้นที่ใจกลางเมืองลำพูน มีพื้นที่รวม 35 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นสวนป่า 8 ไร่ สวนป่านี้เราปลูกไว้ร่วม 30 ปี จึงมีความร่มรื่นจากต้นไม้และความร่มเย็นจากบึงน้ำที่เราขุดโดยรอบ พื้นที่ที่เหลือเราจัดให้เป็นไร่นาสวนผสม แนวเกษตรอินทรีย์ ซึ่งหมายถึงว่าเราไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและไม่ใช้อาหารสำเร็จรูปในการเลี้ยงสัตว์ ดังนั้นเราจึงมีแหล่งผลิตอาหารที่สดสะอาดและปลอดภัย สำหรับผู้สูงอายุ เกษตรอินทรีย์ที่เราได้ทำไปแล้วคือ การปลูกข้าว ข้าวโพด ผักและพืชสวนครัว ปลูกผลไม้จำพวกกล้วย และมะละกอ เลี้ยงไก่อารมณ์ดี เพื่อกินไข่ ต่อไปเราจะปลูกมะเดื่อฝรั่งหรือลูกฟิก และเลี้ยงปลาไว้เป็นอาหาร” นายแพทย์วรวิทย์ วรภัทรากุล ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

เมื่อปี 2559 ทีมผู้ก่อตั้ง ได้ไปดูงานการบริหารจัดการผู้สูงอายุในศูนย์หลายแห่งของประเทศญี่ปุ่น โดยการประสานงานของอดีตผู้อำนวยการองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของรัฐบาลญี่ปุ่นในประเทศไทย ที่เรียกย่อๆ ว่า JICA ทำให้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับ นวัตกรรม และเครื่องมือที่ทันสมัย ตลอดจนการบริหารจัดการที่เราจะนำมาใช้กับศูนย์ของเราต่อไป