บิ๊กแป๊ะ”สนธยา คุณปลื้ม “ พ่อเมืองพัทยา เร่งแก้ไข สะสาง ส่งเสริม พัฒนา สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เมืองพัทยา


เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้ นายสนธยา คุณปลื้ม หรือบิ๊กแป๊ะ มาดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในอดีตได้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ ทางด้านสังคม การเมืองระดับท้องถิ่น การเมืองระดับประเทศ อีกมากมาย โดยเฉพาะเคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อีกทั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี หลายสมัย ได้นำเอาความรู้ ประสบการณ์ที่เคยปฏิบัติงานในกระทรวงต่าง ๆ มาบูรณาการในการบริหารจัดการเมืองพัทยา ให้เป็น นครศูนย์กลางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่มีมาตรฐาน ยั่งยืน และน่าอยู่สำหรับทุกคน ภายใต้การบริหารต้องให้เกิดความเรียบร้อย สำเร็จตามเป้าประสงค์ในการแก้ไขปัญหาให้เมืองพัทยา และประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังเป็น เจ้าของวลีเด็ด “ทวงคืนแผ่นดินสาธารณะ ก็จงอย่าได้ละเว้นเศรษฐี”


นายสนธยา กล่าวว่า วิสัยทัศน์เมืองพัทยา “นครศูนย์กลางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐาน ยั่งยืนและน่าอยู่ สำหรับทุกคน ครอบคลุมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม โครงสร้างพื้นฐาน สิ่งแวดล้อม เป็นเมืองเศรษฐกิจศูนย์กลางการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยมีส่วนร่วม และเป็นธรรมในการ พัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนคุณภาพชีวิตของประชากร เพื่อสร้างความพึงพอใจในด้านมาตรฐานและความปลอดภัยของเมือง เพื่อดึงดูดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากนักท่องเที่ยว ผู้มาเยือน และนักลงทุน เข้าสู่พื้นที่เมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง สร้างความสมดุล และสอดคล้องกับความต้องการของทุกภาคส่วน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในทุกมิติให้สามารถเป็นเมืองศูนย์กลางการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว และการลงทุนในระดับ World class ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของชาวโลก
นอกจากนี้ยังต้องมุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพสูงสามารถเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการพัฒนาที่ยั่งยืน มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ และการดำรงชีวิตที่มั่นคง ได้รับการกระจายผลประโยชน์อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม มุ่งพัฒนาองค์กรสู่การเป็นองค์กรประสิทธิภาพสูง (High performance organization) สามารถบริหารจัดการและดูแล ”มหานครขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางภาคตะวันออก" เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว สนองความปรารถนาให้ผู้มาเยือน ที่มีจำนวนมากหลายชนชั้น หลายเชื้อชาติ ต่างศาสนา หลากหลายวัฒนธรรม เกิดความประทับใจ เชื่อมั่นว่าเมื่อมาเยือนพัทยาต้องปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ได้รับการต้อนรับที่ดี ได้รับความสะดวกสบาย สมดังที่ได้ฉายานามว่า “สยามเมืองยิ้ม” สมกับเมืองพัทยาเป็นเมืองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานสากล


และยังได้กล่าวอีกว่า ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งพ่อเมืองพัทยา จะต้องรีบเร่ง สร้างเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการพัฒนา และการเติบโตของเมือง พัฒนาศักยภาพการรองรับปริมาณการจราจรในอนาคต เสริมสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในทุกด้าน พัฒนาความสามารถในการจัดการมลพิษ หรือผลกระทบของการพัฒนาเมืองและการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่อง น้ำเสีย ขยะ อากาศ ทัศนียภาพ ขยายศักยภาพการรองรับ (Carrying capacity) การท่องเที่ยวของแหล่งท่องเที่ยว เสริมสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการมีส่วนร่วม ในการวางแผนการพัฒนาเมืองและการผังเมือ เร่งรัดการพัฒนาเมืองพัทยาสู่การเป็น Smart city พร้อมกับการเป็น Low carbon society สร้างพลวัตรกิจกรรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ประสบการณ์แปลกใหม่ หลากหลาย ส่งเสริมการจัดกิจกรรมนันทนาการ และกีฬาทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ เสริมสร้างภาพลักษณ์เมืองพัทยาในฐานะแหล่งท่องเที่ยว สถานที่รองรับการจัดประชุมสัมมนา ที่พักอาศัย ศูนย์กลางด้านการแพทย์ หรือแหล่งลงทุนระดับ World class ตลอดจนการสื่อสารสาธารณะสู่สังคมไทยเพื่อสร้างทัศนคติที่ดีและถูกต้อง


ท้ายสุดได้กล่าวอีกว่า เมืองพัทยา มีปัญหาให้แก้ไขอีกมากมาย เพราะปัญหาของเมืองพัทยาที่เกิดขึ้นมักจะเป็นปัญหาสู่ระดับโลก ประชาชนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของอาชญากรรม ปัญหาการจราจร ปัญหาน้ำท่วม ปัญหามลพิษ ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณะ ปัญหาเหล่านี้เมืองพัทยา มิได้นิ่งดูดาย ได้เร่ง และร่วมกันทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาทุกในทุกมิติให้เกิดความเรียบร้อย เป็นธรรม ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อมีน้ำท่วมถนนเมืองพัทยาครั้งใด ก็จะเป็นข่าวดังไประดับโลก ก่อให้เกิดความเสียชื่อเสียงของเมืองพัทยา นั่นหมายถึงการบริหารจัดการ การแก้ไขของเมืองพัทยาล้มเหลว ซี่งในขณะนี้เมืองพัทยาได้ใช้มาตรการเด็ดขาดต่อผู้กระทำความผิด ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย เ พราะการบุกรุกที่ดินสาธารณะจำนวนมาก ปลูกสิ่งก่อสร้างขวาง ทางน้ำ คู คลอง ลำลาง ขณะนี้ได้เร่งแก้ไขกรณีเร่งด่วน และให้กำลังใจข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทุกคน ให้ปฎิบัติกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมให้แนวทางไปว่า “ทวงคืนแผ่นดินสาธารณะ ก็จงอย่าได้ละเว้นเศรษฐี”