ดร.หลวงพ่อแดง เปิดวัดอินทาราม รับนักท่องเที่ยวกราบนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์รับปีเสือ 2565

           หลังการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 คลี่คลายลง และรัฐบาลประกาศเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นมา พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ดร.หลวงพ่อแดง รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา และเจ้าอาวาสวัดอินทาราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ก็เชิญชวนพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปนมัสการกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดเพื่อความเป็นสิริมงคล เช่น ปิดทองหลวงพ่อโตซำปอกง อายุกว่า 300 ปี แกะสลักด้วยศิลาแดง ปางมารวิชัย ภายในอุโบสถหลังเก่าที่สร้างคู่มากับวัดอินทาราม เป็นอุโบสถมหาอุต มีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียว ที่เชื่อกันว่าสามีภรรยาหากต้องการมีบุตรก็ไปขอจะได้สมความปราถนา โดยโบสถ์หลังนี้อดีตเคยใช้ปลุกเสกวัตถุมงคลเพื่อเพิ่มความเข้มขลังแจกจ่ายให้ทหารหาญไปใช้เป็นเครื่องรางของขลังในการสู้รบกับศัตรูของชาติที่รุกราน
         จากนั้นขอพรปิดทอง “พระพุทธเจ้าน้อย”ปางประสูติ หรือที่ชาวเนปาลเรียกว่าเบบี้บุดด้า (Baby Buddha) เป็นพระพุทธรูปที่สร้างจากคติความเชื่อที่ว่า พระโพธิสัตว์จุติจากดุสิตเทวโลก เสด็จปฏิสนธิในพระครรภ์พระนางสิริมหามายา อัครมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ เมื่อพระนางทรงพระครรภ์แก่ ได้เสด็จกลับไปคลอดที่กรุงเทวหะ บ้านเกิด เมื่อเสด็จถึงลุมพินีวัน ตรงกับวันเพ็ญเดือนวิสาขะ วันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพระพุทธศักราช 80 ปี พระนางก็ประสูติพระราชโอรส ณ โคนต้นสาละในพระอิริยาบถยืนพระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งสาละ และเมื่อประสูติพระราชกุมารก็อยู่ในอิริยาบถยืนหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ เสด็จย่างพระบาทไป 7 ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ 7 ดอก เป็นการแสดงปาฏิหาริย์ให้ประจักษ์แก่ชาวโลกเป็นครั้งแรก ผู้ที่เข้ามากราบ เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มีคติความเชื่อว่า ทุกครั้งที่มากราบขอพร ชาวประมงก็จะกลับมาพร้อมกับได้สินทรัพย์จากทะเลเป็นกอบเป็นกำ ขณะที่นักธุรกิจพ่อค้าแม่ค้าขอให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ และใครที่ชอบเสี่ยงเซียมซีที่นี่เขาก็ว่าแม่น ที่ผ่านมามีนักเสี่ยงโชคที่สมความปราถนานำแท็บเล็ต ส้มโอ และประทัดมาแก้บนถวายพระพุทธเจ้าน้อยก็หลายราย
       นอกจากนี้วัดอินทาราม ยังมี “ท้าวเวสสุวรรณ” ที่เชื่อกันว่า เป็นเทพเจ้าแห่งอสูรยักษ์ คนไทยสมัยโบราณนิยมนำผ้ายันต์รูปยักษ์หรือท้าวเวสสุวรรณผูกไว้ที่หัวเตียงนอนเด็กเพื่อป้องกันวิญญาณรวมถึงสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ไม่ให้มารังควาน และยังเชื่อว่า ผู้ใดห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณ จะบังเกิดโชคลาภมากมาย ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ไม่ขาด แก้ปีชง เสริมปีชง เทพแห่งปีชง ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ป้องกันภูติ ผีวิญญาณต่างๆไม่กล้ามาทำอันตรายใดๆให้กับคนในครอบครัว นอกจากนี้ตามตำนานทางพระพุทธศาสนายังเชื่อว่าในอดีตชาติ ท้าวเวสสุวรรณ ท่านเคยเป็นพราหมณ์ที่ใจบุญ มักจะบริจาคเงินทองให้แก่ผู้ยากไร้ และด้วยบุญกุศลที่ท่านบำเพ็ญมา พระพรหมและพระอิศวร จึงให้พรความเป็นอมตะแก่ท่าน เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี และเป็นเทพแห่งความร่ำรวย

       ดังนั้นผู้คนจำนวนมากจึงนิยมกราบไหว้บูชาเพื่อขอพรจากท่าน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายนั่นเอง อย่างไรก็ตามขณะนี้วัดอินทาราม ได้จัดสร้างเหรียญท้าวเวสสุวรรณ รุ่นแรก “รวยล้นเหลือ” มีเนื้อทองคำและเนื้ออื่นๆรวม 12 เนื้อ 25 แบบ เช่น เนื้อทองคำลงยา ราคา 47,000 บาท เนื้อทองคำ ราคา 45,000 บาท, เนื้อนาคพิ้งโกล 25,000 บาท, เนื้อเงินลงยา 2,500 บาท, เนื้อเงิน 1,999 บาท, และเนื้ออื่นๆอีก ราคาตั้งแต่ 200-2,500 บาท ทุกรุ่นผสมมวลสารสมเด็จวัดระฆัง และสมเด็จ 108 เจกิอาจารย์ สร้างตามจำนวนสั่งจองเท่านั้น เปิดให้จองตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป โดยจะมีพิธีปลุกเสกเหรียญท้าวเวสสุวรรณ และสวดภาณยักษ์ใหญ่ พร้อมแจกวัตถุมงคลฟรี ในวันที่ 28 มกราคม 2565 รอบแรกเวลา 18.00 น. และ รอบสองเวลา 20.00 น. รับเหรียญท้าวเวสสุวรรณวันที่ 29 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อนำรายได้สร้างหอระฆัง และอาคารปฏิบัติธรรม ผู้สนใจติดต่อได้ที่วัดอินทารามโดยตรง
            สำหรับวัดอินทาราม นอกจากการคมนาคมทางรถที่สะดวกเข้าถึงวัดแล้ว บริเวณหน้าวัดยังมีท่าน้ำคลองแควอ้อมให้นักท่องเที่ยวที่มาทางเรือจากตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำบางน้อย หรือตลาดแม่กลองที่มากราบไหว้นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดดังกล่าวอีกด้วย หากไปไม่ถูกก็โทรศัพท์สอบถามได้ที่ 092-3987257 หรือ 087-3287808 หรือปักหมุด GPS วัดอินทาราม จ.สมุทรสงคราม ได้เลย