ส่งผลให้ตอนนี้ประเทศไทยเกิดวิกฤตเตียงไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อต้องแยกกักตัวที่บ้านหรือ Home Isolation เป็นหนึ่งในมาตรการที่จะช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล แก้ปัญหาเตียงเต็มได้ นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการแพทย์ รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ให้คำแนะนำสำหรับประชาชน ถึงยา 5 ชนิด ที่ทุกคนควรมีติดบ้านไว้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อเตรียมพร้อมเมื่อเกิดอาการป่วยจะได้รักษาเบื้องต้นได้ทันท่วงที 1.ยาบรรเทาปวด ลดไข้แนะนำให้ใช้ ยาพาราเซตามอล ซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีติดบ้านแทบทุกครัวเรือน เนื่องจากมีความปลอดภัย ใช้ได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ บรรเทาอาการปวด ลดไข้ เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว เป็นต้น รับประทานขนาด 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมงถ้ามีไข้ พยายามหลีกเลี่ยง ยาตระกูลแอสไพริน เนื่องจากยาแอสไพรินสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารได้ 2.ยาละลายเสมหะ ยากลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น Ambroxol, Acetylcysteine หรือ Bromhexine จะทำให้เสมหะที่เหนียวข้นอ่อนตัวลง ช่วยให้ผู้ป่วยไอและขับเสมหะออกมาได้ง่ายขึ้น มักใช้รักษาอาการไอที่เกิดจากการติดเชื้อ จึงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไอแบบมีเสมหะเป็นอย่างมาก 3.ยากดอาการไอ (ควรใช้เฉพาะเวลาที่มีอาการไอมากๆ)ยาในกลุ่มนี้ เช่น Dextromethorphan เป็นยาลดอาการไอที่มีความนิยมใช้กันมานาน เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีและมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่แนะนำให้ใช้ก็ต่อเมื่อเวลาที่มีอาการไอมากๆจนกระทั่งรบกวนการนอน 4. วิตามิน D3 แนะนำให้ทานเพื่อชดเชยในคนที่ขาดวิตามิน D (ซึ่งคนไทยโดยส่วนใหญ่มักขาดวิตามินตัวนี้ เนื่องจากการเลี่ยงแสงแดด) ซึ่งประโยชน์ของวิตามิน D3 จะช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิต้านทาน มีบทบาทต่อการทำงานของทั้งระบบภูมิคุ้มกัน มีผลการวิจัยกล่าวว่าวิตามิน D3 ช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต บรรเทาความรุนแรงที่เกิดจากโควิด-19 และช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วย แนะนำขนาดรับประทานวันละ 1,000 IU 5.ฟ้าทะลายโจร อยู่ในกลุ่มยาเย็นมีสรรพคุณทางการแพทย์แผนไทย ใช้บรรเทาอาการไข้หวัด แก้ไอและเจ็บคอ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด - 19 ในระยะแรกที่มีความรุนแรงน้อย ในฟ้าทะลายโจรมีสาร แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในร่างกาย รวมถึงมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ดียิ่งขึ้น โดยขนาดที่ควรรับประทานคือวันละ 180 มิลลิกรัม แบ่งรับประทานวันละ 3-4 ครั้ง แต่ไม่ควรทานนานเกิน 5 วัน อย่างไรก็ตามการรับประทานยาควรทำความเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับยาจากฉลากยา เพื่อความมั่นใจว่ารับประทานยาถูกต้อง หากใช้ไม่ถูกก็สามารถก่อให้เกิดโทษและอันตรายต่อร่างกายได้ ควรปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้ การป้องกันโควิด-19 ที่ดีที่สุดคือการทำตามมาตรการความปลอดภัยทั้งสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่างจากผู้อื่น หลีกเลี่ยง พื้นที่เสี่ยง พื้นที่แออัด หรือสถานที่ที่คนพลุกพล่าน รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อสุขภาพที่ดีของเราทุกคน สำหรับประชาชนที่ต้องการทราบข้อมูลเรื่องการตรวจโควิด สามารถสอบถามได้ที่รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ หรือโทร 02 233 1424-5 หรือ ศึกษาข้อมูลเรื่องการตรวจโควิดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rattinan.com/covid19-rt-pcr/