Browny 24hr Wash & Dry เผย รายได้จากบริการร้านสะดวกซักโตกว่า 40% สวนกระแสตลาดร้านสะดวกซักหดตัว พร้อมเดินหน้าขยายสาขาทั่วประเทศ
ท่ามกลางการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดร้านสะดวกซักในประเทศไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจร้านสะดวกซักน้อยลงในปีตั้งแต่ต้น 2568 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลต่าง ๆ อาทิ ตลาดอิ่มตัว บางทำเลมีร้านสะดวกซักมากเกินไปซึ่งทำให้การเปิดร้านใหม่ทำได้ยากขึ้น, ตัวเลือกการลงทุนอื่น ๆ ที่เปิดกว้างภายหลังจากช่วงโรคระบาด COVID-19 หรือ กำลังจ่ายของประชาชนที่ลดลงอันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจ แต่สิ่งเหล่านี้จะมีส่วนฉุดรั้งการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้จริงหรือ?
จากการสอบถามไปยัง บริษัท เอบี อินโนเวชั่นส์ จำกัด (AB Innovations) ผู้บริหารแบรนด์ร้านสะดวกซัก Browny 24hr Wash & Dry ซึ่งได้ทำการวิจัยตลาดอย่างต่อเนื่องพบว่า แม้อัตราการเปิดร้านใหม่ของตลาดโดยรวมหดตัวลง แต่การหดตัวดังกล่าวเกิดขึ้นใน 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่สร้างแบรนด์เอง (ไม่อยู่ภายใต้ระบบแฟรนไชส์) หรือที่เรียกกันว่า Non-brand และกลุ่มแบรนด์เล็กที่ไม่สามารถยกระดับมาตรฐานคุณภาพให้แข่งขันกับตลาดโดยรวมได้
ในขณะที่รายได้ต่อสาขาของ Browny 24hr Wash & Dry มีการเติบโตต่อเนื่องกว่า 40% เมื่อเทียบกับปี 2567 ชี้ให้เห็นภาพการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพื่อการซักอบผ้ายังคงมีการเติบโต และไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ ในทางกลับกันพบว่าในพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางและกลุ่มบ้านแนวราบ เช่น ปทุมธานี นนทบุรี มีปริมาณการใช้จ่ายในร้านสะดวกซักดีดตัวกลับไปใกล้เคียงกับช่วง COVID-19 โดยพบว่าเหตุผลคือประชาชนเข้าห้างสรรพสินค้าน้อยลงและเข้าร้านสะดวกซักและร้านค้าในพื้นที่ใกล้เคียงมากขึ้น
บริการ Browny Service Inclusive (BSI) Solution ของร้านสะดวกซักเพื่อความยั่งยืนในการทำธุรกิจ
แม้ว่า Browny เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักที่มีอยู่มากมายในขณะนี้ แต่จุดแข็งสำคัญที่ทำให้ Browny สร้างความยั่งยืนให้กับนักลงทุน คือ “ระบบการบริหารแบบมีเจ้าของ (Owner-Operator Model)” ซึ่งบริษัทควบคุมการออกแบบ และกำกับการบริหารจัดการร้านทุกสาขาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพการบริการและประสบการณ์ลูกค้าที่เป็นหนึ่งเดียวกัน
โดย Browny ใช้เครื่องมือที่สำคัญ คือ Browny Service Inclusive (BSI) ระบบบริหารร้านสะดวกซักที่ควบคุมตั้งแต่เครื่องจักร การบำรุงรักษา การจัดการเหตุฉุกเฉิน และการให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ สิ่งเหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาในการดำเนินงาน (Pain Point) ของนักลงทุนรายย่อย มุ่งเน้นให้นักลงทุนมุ่งเป้าไปยังการสร้างรายได้ของร้านมากกว่าความกังวลในการดูแลร้านซึ่งมีรายละเอียดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อร้านมีอายุมากขึ้น
คุณอชิตศักดิ์ พชรวรณวิชญ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบี อินโนเวชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า “ความเป็นเจ้าของในระบบของ Browny ไม่ได้หมายถึงการทำทุกอย่างเอง แต่คือการวางระบบให้ทุกสาขาเดินไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งด้านต้นทุน คุณภาพ และผลกำไร เราเชื่อว่าธุรกิจร้านสะดวกซักยังไม่อิ่มตัว แต่กำลังเข้าสู่ช่วงที่แบรนด์ที่มีระบบที่ดีจริง ๆ จะเติบโตได้ต่อเนื่องมากกว่าเดิม”
หัวเมืองรองคือหมุดหมายถัดไปของการเติบโตในอุตสาหกรรมร้านสะดวกซัก
กลยุทธ์การเติบโตของ Browny ยังคงให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก ได้แก่ เครือข่ายแฟรนไชส์, พันธมิตรทางธุรกิจ และนวัตกรรม โดยปัจจุบัน Browny มีสาขาให้บริการประมาณ 150 สาขาทั่วประเทศ ในจำนวนนี้มีสาขาที่เป็นของบริษัทเองประมาณ 30 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของร้านสะดวกซื้อ CJ ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนการเพิ่มสาขาในหัวเมืองรองเพื่อให้เปิดครบ 200 สาขาภายในปี 2569
นางสาวศุภิสรา สุภา General Manager กล่าวเสริมว่า “Browny มีการร่วมประชุมวางแผนกลยุทธ์การเติบโตทุกปีกับทุกพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน เราไม่อยากให้นักลงทุนหรือตัวบริษัทเองต้องเปิดร้านแล้วมาปิดสาขาในภายหลัง ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ของ Browny อัตราการปิดร้านอยู่ในระดับต่ำเพียง 1%-2% เมื่อเทียบกับทั้งอุตสาหกรรมที่ประมาณ 12%”
ในด้านนวัตกรรม Browny ยังมีแต้มที่เหนือกว่าแบรนด์อื่น ๆ เพราะมีบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ในเครือ ซึ่งทำให้แอปพลิเคชัน Browny ได้รับการยอมรับว่ามี User Experience ที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ พร้อมมอบประสบการณ์และกิจกรรมการตลาดที่หลากหลาย อาทิ ระบบคูปองส่วนลด, การผสานกิจกรรมออฟไลน์ออนไลน์เข้าด้วยกันด้วยการสแกน QR รับของรางวัลภายในร้าน, การแลกซื้อของต่าง ๆ โดยในอนาคต Browny กำลังพัฒนาระบบรับฝากซักอบพับที่ทำให้สามารถติดตามสถานะแบบ Real Time ได้ต่อไปในอนาคต