“รู้ทัน ‘แอนแทรกซ์ผิวหนัง’ โรคร้ายจากสัตว์สู่คน – แพทย์ผิวหนังเตือน! อย่ามองข้ามตุ่มแดงที่เปลี่ยนเป็นแผลดำ”
แพทย์หญิงนิอร บุญเผื่อน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง จากลัลลลิตาคลินิก
________________________________________
ในช่วงที่ผ่านมา มีรายงานการพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากแบคทีเรีย Bacillus anthracis ที่อาจเกิดขึ้นในกลุ่มผู้มีอาชีพเกี่ยวข้องกับสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เกษตรกร พ่อค้าเนื้อสัตว์ หรือผู้ทำงานในฟาร์ม โดย “ชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในคน คือ แอนแทรกซ์ทางผิวหนัง” ซึ่งหากไม่รู้เท่าทัน อาจลุกลามและเป็นอันตรายถึงชีวิต
แพทย์หญิงนิอร บุญเผื่อน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง จากลัลลลิตาคลินิก
ให้ข้อมูลว่า
“แอนแทรกซ์ผิวหนังเริ่มต้นเพียงตุ่มแดงคล้ายแมลงกัด แต่พัฒนารวดเร็วเป็นตุ่มน้ำ แล้วกลายเป็นแผลเนื้อตายตรงกลาง ล้อมรอบด้วยอาการบวมแดง โดยทั่วไปผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่แผลลุกลามได้เร็ว อาจมีไข้ ปวดเมื่อยตัว และต่อมน้ำเหลืองโตร่วมด้วย”
________________________________________
หากพบความผิดปกติของผิวหนัง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง แนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอย่างแม่นยำ โดยแพทย์ตรวจโดยอาศัย:
• การซักประวัติสัมผัสสัตว์ ซากสัตว์ หรือเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก
• การย้อมเชื้อจากสารคัดหลั่งหรือเนื้อเยื่อ
• การเพาะเชื้อจากแผล
• การตรวจ PCR หาสารพันธุกรรมของเชื้อ Bacillus anthracis
________________________________________
อาการที่ควรสังเกต
แพทย์หญิงนิอร บุญเผื่อนให้คำแนะนำว่า ผู้ที่มีประวัติสัมผัสสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ควรสังเกตอาการผิวหนังดังนี้:
1. ตุ่มแดงนูน ภายใน 1-7 วันหลังสัมผัสสัตว์หรือซากสัตว์
2. พัฒนาเป็นตุ่มน้ำใสหรือตุ่มหนอง
3. เกิดแผลเนื้อตายตรงกลางแผลเป็นสีดำ (Black eschar)
4. ไม่มีอาการเจ็บแผล แม้ลักษณะดูรุนแรง
5. อาจมี ไข้ ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโตและเจ็บ หรืออ่อนเพลียร่วมด้วย
________________________________________
แนวทางการรักษา
แพทย์หญิงนิอร บุญเผื่อน กล่าวว่าโรคแอนแทรกซ์ผิวหนังสามารถรักษาให้หายได้หากได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที โดยแนวทางคือ:
• ยาปฏิชีวนะ เช่น Ciprofloxacin หรือ Doxycycline
• หากมีอาการรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแบบฉีดในโรงพยาบาล
• การรักษาร่วมกับการดูแลแผล เช่น การล้างแผล และการป้องกันการติดเชื้อซ้ำ
• ผู้ป่วยต้องได้รับการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
แพทย์หญิงนิอร บุญเผื่อน กล่าวเตือนว่าหากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 20 จากการติดเชื้อทางกระแสเลือด
________________________________________
คำแนะนำสำหรับประชาชน
แพทย์หญิงนิอร บุญเผื่อน ได้ให้คำแนะนำไว้ด้งนี้
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสซากสัตว์ตายโดยตรง
• สวมถุงมือ หน้ากาก และเสื้อคลุมป้องกันเมื่อทำงานกับสัตว์
• หากพบสัตว์ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
• รีบพบแพทย์หากมีอาการผิดปกติของผิวหนังหลังการสัมผัสสัตว์
________________________________________
แพทย์หญิงนิอร บุญเผื่อน กล่าวสรุปว่า
• แอนแทรกซ์ทางผิวหนังเป็นโรคที่รักษาได้ หากพบและรักษาทัน
• ตุ่มดำที่ไม่เจ็บ ไม่ใช่เรื่องเล็ก! ควรรีบตรวจ
• กลุ่มเสี่ยงควรป้องกันตัวเองเมื่อต้องสัมผัสสัตว์
• หากสงสัยอาการผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์เฉพาะทางทันที
ปรึกษาปัญหาผิวหนังกับแพทย์เฉพาะทางได้ที่ลัลลลิตาคลินิก
9/41 ถนนบางแวก แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กทม. 10170 โทร.0863534562
________________________________________
#แอนแทรกซ์ #Anthrax #ลัลลลิตาคลินิก #โรคผิวหนัง #คลินิกผิวหนัง #โรคผิวหนังเด็ก #ผิวเด็ก #ความรู้คู่ผิว
