ที่สุดแห่งปรากฏการณ์ กับ การรวมตัวกันของภาคธุรกิจ SMEs เล็กๆ กว่า 50 ธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือสังคม แก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กพิเศษ พึ่งพาตนเองได้

ตลอดสามเดือนที่กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก SMEs 50 บริษัท ได้รวมตัวกันขับเคลื่อน CSR 4+1 โครงการเพื่อสังคมจากโครงการพัฒน์ เพื่อแก้ปัญหา ปัจจัย 4+1 คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย และครูหรือบุคลากร ในโรงเรียนขนาดเล็กพิเศษ โดยผ่านโครงการทั้ง 5 โครงการ ดังนี้

    1. โครงการก่อร่างสร้างครัว เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาอาหารกลางวัน
    2. โครงการตัดเสื้อน้องแต่พอตัว เพื่อแก้ไขปัญหาเสื้อผ้าและเครื่องแบบนักเรียน
    3. โครงการคบเด็กสร้างโรงพยาบาล เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของนักเรียน
    4. โครงการปลูกโรงเรียนตามใจผู้อยู่ มุ่งเน้นการปรับสภาวะแวดล้อม ซึ่งมีผลต่อการศึกษาและพัฒนาการของเด็ก เร่งแก้ไขส่วนที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย
    5. โครงการอยู่ดีมีครู เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนครู

ทั้งหมดนี้ได้ดำเนินการสร้างสรรค์โมเดลแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่มาใช้เป็นต้นแบบ โดยการร่วมกันของภาคธุรกิจ SMEs กว่า 50 ธุรกิจ ที่อยู่ในโครงการพัฒน์ ซึ่งร่วมกับโรงเรียนอีก 5 โรงเรียนในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการทดลองโมเดลแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเป้าหมายคือการขยายโมเดลแก้ไขปัญหานี้ไปอีกหลายๆ โรงเรียนในปีต่อ ๆ ไป

หลังจากแถลงข่าวเปิดตัวแต่ละโครงการไปในเดือนกันยายน CSR 4+1 แต่ละโครงการก็ได้เริ่มดำเนินการประสานกับโรงเรียนต้นแบบเพื่อทดลองการแก้ไขปัญหาด้วยรูปแบบของตนเอง โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากโรงเรียน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจทั้ง 50 ธุรกิจ มาร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม

โดยแต่ละโครงการมีรูปแบบโมเดลการแก้ไขปัญหาที่น่าสนใจแตกต่างกันแต่อยู่ภายใต้กรอบความคิดเดียวกันคือ สืบสาน สร้างสรรค์ และส่งเสริม ซึ่งการสืบสานนั้น เป็นการสืบสานพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์โมเดลแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งส่งเสริม ให้กำลังใจบุคคลที่เสียสละในด้านต่าง ๆ ที่อยู่ในขอบเขตของแต่ละโครงการผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป อาทิ

1. โครงการก่อร่างสร้างครัว

ได้นำโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ โมเดลแก้ปัญหาที่ชื่อว่า “ปลูก ปรุง แปร แล้วเปลี่ยน….” โดยได้ร่วมกับโรงเรียนวัดสมานมิตรมงคล จ.สระบุรี เพื่อทดลอง สร้างแปลง ปลูกแล้วเปลี่ยน ขึ้นมาในโรงเรียน โดยการมีส่วนร่วมของ เด็กนักเรียน คุณครู คนในชุมชน นักธุรกิจ และภาคส่วนอื่นๆ ให้การสนับสนุน และดูแลแปลงปลูกร่วมกัน

จากนั้นมีการลงพื้นที่ โรงเรียนอีกครั้งเพื่อทำกิจกรรม ปรุงแล้วเปลี่ยน จากนั้นนำผลผลิตในแปลงปลูกมาสร้างสรรค์เมนูอาหารกลางวัน ที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ วัตถุดิบหลากหลาย น่ารับประทาน ด้วยการร่วมกับแม่ครัวของโรงเรียนซึ่งเป็นคุณครูและการมีส่วนร่วมจากพ่อครัวที่มีชื่อเสียงจากรายการแข่งทำอาหารชื่อดัง มาร่วมคิดค้นสูตรอาหารกลางวันเพื่อมอบให้โรงเรียนนำไปใช้ในโอกาสต่อๆ ไป

จากนั้นทีมงานได้ร่วมกันสร้างกิจกรรม แปรแล้วเปลี่ยน โดยนำวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีอยู่ในชุมชนหรือในแปลงผักของโรงเรียน มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ให้กับโรงเรียน โดยมีการสนับสนุนจากดีไซเนอร์เพื่อช่วยออกแบบแพ็กเกจและสร้างแบรนด์ให้กับโรงเรียน ที่มีชื่อแบรนด์ว่าสมานมิตร และยังมีการสอนการสร้างคอนเทนต์ให้กับบุคลากรในโรงเรียนจากทีมงานที่มีประสบการณ์ เพื่อไว้ใช้ประชาสัมพันธ์สินค้าของโรงเรียนอีกด้วย

2. โครงการตัดเสื้อน้องแต่พอตัว

เพื่อแก้ไขปัญหาเสื้อผ้าและเครื่องแบบนักเรียน โดยได้นำการดำเนินงานในรูปแบบสหกรณ์มาเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์เป็นสหกรณ์ออมชุด ภายใต้คอนเซปต์ การจัดสรรทรัพยากรร่วมกันให้พอดี เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนชุดนักเรียนอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นไปในรูปแบบการ ยืม – คืน โดยมีความร่วมมือกับกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าต่างๆ ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการ

อีกทั้งยังมีการส่งเสริมสินค้าโรงเรียนสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายและสนับสนุนความรู้ร่วมกับแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซชื่อดัง โดยทางทีมงานได้เข้าไปทำงานร่วมกับโรงเรียนต้นแบบสองโรงเรียนเพื่อหาข้อมูล และเริ่มดำเนินโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่พูดคุยเก็บข้อมูล การวัดขนาดตัวน้อง ๆ นักเรียน การติดตามผลการยืมคืนชุดนักเรียน ที่โรงเรียนวัดคลองโมง จ.สุพรรณบุรี และได้เข้าไปพูดคุยเพื่อเก็บข้อมูลกับคุณครูโรงเรียนวัดเจริญสุขาราม จ.สมุทรสาคร เพื่อเริ่มทดลองโมเดลสหกรณ์ออมชุดเพิ่มเติม

3. โครงการคบเด็กสร้างโรงพยาบาล

เป็นโครงการที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาหลายปี โดยในปีที่ผ่านมา โครงการคบเด็กสร้างโรงพยาบาล ได้สืบสานจาก โครงการโรงเรียนคุณธรรม โดยมีความมุ่งหวังปลูกฝังเยาวชนให้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมอันดีงามของไทย และยังคงส่งเสริมให้เยาวชนใช้ความสามารถของตนเองในการช่วยเหลือสังคมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

โดยในปีนี้ได้สร้างสรรค์เวทีสำหรับเยาวชนขึ้นโดยร่วมกับโรงเรียนต้นแบบ ร.ร.วัดปากคลองบางคู้ จ.ลพบุรี ให้นำความสามารถของนักเรียนในโรงเรียนออกมาถ่ายทอดความเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นลพบุรี ผ่านศิลปะการแสดงรำลพบุรี เพื่อเป็นต้นแบบให้กับน้อง ๆ เยาวชน ทั่วไป เพื่อนำรายได้จากการแสดงความสามารถไปใช้ในการช่วยเหลือและพัฒนาห้องพยาบาลในโรงเรียนและสุขภาพของนักเรียนรวมถึงในโรงพยาบาลแก่บุคคลทั่วไปด้วย และในปีที่ผ่านมาทีมงานได้ทำการพาเยาวชนไปจัดแสดงและประชาสัมพันธ์โครงการในที่ต่างๆ อีกด้วย

4. โครงการปลูกโรงเรียนตามใจผู้อยู่ 

โครงการที่สืบสานโครงการพระดาบส นำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ โมเดล “ช่างคิดส์ ช่างทำ” เพื่อสร้างให้เกิดองค์ความรู้เกี่ยวกับงานช่างในพื้นที่ เพื่อต่อยอดเป็นอาชีพและคอยดูแลโรงเรียนในพื้นที่ด้วย โดยเริ่มต้นจากช่างไม้ ซึ่งร่วมกับโรงเรียนบ้านปง (วัฒนาวิทยาคาร) จ.แพร่ เพื่อเริ่มทดลองโมเดล ในปีที่ผ่านมาทีมงานได้ศึกษาหาข้อมูลในการทำงาน และทำกิจกรรมเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการร่วมกับเด็ก ๆ และผู้ที่สนใจ อย่างเช่นการลงพื้นที่เพื่อศึกษาวิชา ศาสตร์พระราชา และการเก็บข้อมูลร่วมกับโรงเรียน

5. โครงการอยู่ดีมีครู 

โครงการที่สืบสานมาจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร โดยมุ่งหวังให้ชาวบ้านได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์โมเดล “ศิลป์ สาน สร้าง” โดยนำภูมิปัญญาที่มีอยู่เดิมของท้องถิ่น มาร่วมกับดีไซเนอร์สร้างผลิตภัณฑ์ชุมชนขึ้นมา เพื่อนำเงินมาแก้ปัญหาขาดแคลนครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยทางทีมงานได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลและดำเนินโครงการร่วมกับ โรงเรียนบ้านมาบเหียง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบ และเริ่มพูดคุยถึงไอเดียผลิตภัณฑ์ถ่านดับกลิ่นซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น

นอกจากนี้ทางโครงการอยู่ดีมีครูยังออกผลิตภัณฑ์เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนครู ด้วยการสร้างแบรนด์
X-KRUSIVE ขึ้นมา ด้วยกลยุทธ์ สินค้าจำกัดจำนวน (Limited Product) โดยได้ออกสินค้า Collection แรก เป็นกระเป๋ากระจูด ซึ่งเป็นวัสดุท้องถิ่น ที่จะมีขายเพียง 100 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งเป้าหมาย 1 Collection จะสามารถแก้ไขเรื่องการจ้างครูได้ 1 คน เป็นเวลา 1 ปี

และทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมตลอดสามเดือนที่ทั้ง 5 โครงการได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมีงานรวบรวมความคืบหน้ามาจัดแสดงในงาน วันที่ 9-10 มกราคมนี้ ที่สามย่านมิตรทาวน์ โดยได้รับเกียรติจาก คุณอรพินทร์ เพชรทัต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงาน

โดยภาพในงานยังมีกิจกรรมของทั้ง 5 โครงการจัดแสดงทั้งบนเวที และลานเวิร์กช็อป พร้อมทั้งพันธมิตรผู้จัด กว่า 50 ธุรกิจมาร่วมออกบูธ สินค้าและกิจกรรมมากมาย รวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วม ผู้สนับสนุน นักเรียน คุณครู โรงเรียนต้นแบบ การแสดงระบำชนไก่ จากน้อง ๆ นักเรียน,การแสดงกายกรรม Colourful Family Magic, การแข่งกินอาหารจากกิจกรรมของรวมช่างไทย การแสดงผลงานภาพวาดจากศิลปินและมหาวิทยาลัยในหัวข้อ อาหารกลางวันในฝัน และเสวนาอื่นๆ พร้อมแขกรับเชิญบนเวที และผู้มีชื่อเสียงในด้านต่างๆ เช่น เชฟเริญจากรายการแข่งขันทำอาหารชื่อดัง, คุณประภาส ศรีสุมะ Line certificated coach, น้องกะทิ ยุวทูต คนแรกของโครงการคบเด็กสร้างโรงพยาบาล และอื่นๆ อีกมากมาย

สนใจติดตามหรือสอบถามรายละเอียดได้ทาง
Facebook: โครงการพัฒน์ PLUS+ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SME - Startups

Facebook : https://www.facebook.com/plusforsme