ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ห่างไกลจาก “โรคไต” กับ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร K ตรา Dr.Ong-ard” พร้อมทางเลือกใหม่ สำหรับคนรักสุขภาพ ที่คุณไม่ควรพลาด!

"ไต" เป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกายโดยทำหน้าที่ในการกำจัดของเสีย ดูดซึม และเก็บสารที่เป็นประโยขน์ต่อร่างกาย รักษาสมดุลน้ำเกลือแร่ กรด ด่างของร่างกาย ควบคุมความดันโลหิต และสร้างฮอร์โมน ไตเสื่อมเกิดขึ้นได้จากโรคต่างๆ หรืออายุที่มากขึ้น

เมื่อพูดถึงสถานการณ์โรคไตในปัจจุบัน โดยข้อมูลจากสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย พบว่าคนไทยป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ประมาณร้อยละ 17.6 และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกๆ ปี ซึ่งโรคไตเรื้อรังเป็นโรคที่พบบ่อย ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่โรคไตวายระยะสุดท้าย ถ้าเกิดภาวะไตวาย ไตหยุดทำงาน ของเสียจะสะสมอยู่ในเลือดและร่างกาย ทำให้มีอาการ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย โลหิตจาง คันตาตัว มีจ้ำตามตัว อาเจียนเป็นเลือด น้ำท่วมปอด กระดูกเปราะบางหักง่าย ปวดกระดูก หากของเสียค้างในสมองมากเกินไป อาจทำให้จะมีอาการชักและสมองหยุดทำงาน

นอกจากนี้ผู้ป่วยจะเป็นหมัน และหมดสมรรถภาพทางเพศ หากเกิดโรคไตวายในเด็กอาจหยุดการเจริญเติบโต โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นโรคไตวาย ได้แก่ เบาหวาน, ไตวายจากเนื้อเยื่อไตอักเสบ , ความดันโลหิตสูง, ไขมันสูง, โรคเอสแอลอี (SLE), โรคเก๊าต์, นิ่วในไตและทางเดินปัสสาวะ, ไตวายจากพันธุกรรม, ทางเดินปัสสาวะผิดปกติมาตั้งแต่เกิด เป็นต้น

ในปัจจุบันนี้มีวิธีการรักษาผู้ป่วยไตวายให้มีชีวิตยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ วิธีการรักษาโรคไตวายเรื้อรังมี 3 วิธี ได้แก่ การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) เป็นการนำเลือดของผู้ป่วยซึ่งมีของเสียคั่งค้าง ผ่านเข้าไปในเครื่องกรองเลือด ซึ่งจะกรองของเสียจากเลือดและนำเลือดที่ถูกกรองจนสะอาดแล้วกลับเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย และวิธีที่สอง เป็นวิธีล้างช่องท้องด้วยน้ำยา (CAPD) โดยวิธีนี้ผู้ป่วยจะต้องใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้องตนเอง ครั้งละ 2 ลิตร วันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 6 ชั่วโมง หรือทำกลางคืนตลอดทั้งคืนทุกๆ วัน และวิธีสุดท้ายเป็นการเปลี่ยนไต หรือ ปลูกถ่ายไต (Kidney Transplantation) เป็นวิธีการรักษาโรคไตวายเรื้อรังที่ดีที่สุด

โดยข้อแนะนำผู้ที่เป็นโรคไตดังนี้คือ ไม่ทานอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารรสเค็มและงดการปรุงรสด้วยซอสต่างๆ ลดการทานขนมปัง เค้ก คุกกี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผักและผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ผักสีเขียวเข้มต่างๆ กล้วย มันฝรั่ง มะเขือเทศ ฟอสฟอรัสสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นอกจากนี้ควรลดหรืองดยาสมุนไพร ยาแก้ปวด เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อไต หากปฏิบัติได้ดังนี้ก็จะเป็นวิธีการชะลอการเสื่อมของไตได้ดี ช่วยยืดเวลาการทำงานของไตอีกด้วย

เนื่องจากโรคไตเป็นหนึ่งในโรคที่พบมากในผู้สูงอายุ บริษัท วันเอฟู้ด จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และพัฒนาสูตรขึ้น มาเป็น “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร K ตรา Dr.Ong-ard” โดยนำสารสกัดต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อไตโดยเฉพาะ เช่น สารสกัดโกจิเบอร์รี่ หรือเก๋ากี้ ที่ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย (บำรุงหัวใจให้แข็งแรง) สารสกัดจากใบบัวบก นอกจากจะช่วยบำรุงสมองแล้ว ยังช่วยชะลอการเสื่อมของไตได้อีกด้วย และยังมีเวย์โปรตีน ที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและไม่ทำให้ผู้ป่วยอ่อนแรง

“ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร K ตรา Dr.Ong-ard” เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต ให้พลังงาน 250 กิโลแคลอรี โปรตีนสูงถึง 18% (เมื่อเทียบกับ Thai RDI/วัน) โดยเน้นโปรตีนที่มีคุณภาพสูงจากเวย์โปรตีนไอโซเลท และโปรตีนจากนม ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีนชนิดต่างๆ ในร่างกาย มีส่วนช่วยเสริมสร้างและคงสภาพของมวลกล้ามเนื้อ และมีแคลเซียมสูงถึง 15% (เมื่อเทียบกับ Thai RDI/วัน) พร้อมเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง โดยดื่มเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ปัญหาสุขภาพ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขได้อีกด้วย

นอกจากนี้ “ผลิตภัณฑ์ตรา ดร.องอาจ” ยังเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพที่ผลิตออกมาเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพด้วยกันถึง 3 สูตร ไม่ว่าจะเป็น สูตร G สำหรับบำรุงร่างกายทั่วไป สูตร L สำหรับผู้เป็นเบาหวาน และ  สูตร K สำหรับผู้เป็นโรคไต โดย 3 สูตรนี้จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้สูงอายุ และยังมีสารสกัดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ตอบโจทย์สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้น และที่สำคัญยังได้รับสนับสนุนโดย สำนักงาน สวทช. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ดื่มง่าย อร่อย หอมละมุน ด้วยกลิ่นวนิลลา เป็นทางเลือกให้กับคนรักสุขภาพ

สนใจติดสามารถต่อหรือสอบถามรายละเอียดได้ทาง
Facebook: อาหารเพื่อสุขภาพ ดร.องอาจ - Dr.Ong-ard
Inbox: http://m.me/DrOngardd
Lind ID: @Dr.ong-ardd
Website: https://drong-ard.com/
Tel: 062-4412199
ใบอนุญาตเลขที่: 13-2-03652-5-0014

Facebook : https://www.facebook.com/Dr.OngArdd?mibextid=LQQJ4d