สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (สคพ.)

สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) หรือ สคพ. เตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ITD Regional Forum 2022: Futuristic Asia Pacific ในวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นงานการประชุมระดับนานาชาติของประเทศไทยที่จะเชื่อมโยงและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านรูปแบบการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการเผชิญกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งเกิดจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาด้านสงคราม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และโรคอุบัติใหม่ เป็นต้น

​โควิด-19 ได้กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อป้องกันการพังทลายของธุรกิจการค้าและการลงทุนจากโรคระบาด ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชากรทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างคนที่เข้าถึงเทคโนโลยี กับคนที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ และถึงแม้ว่าจะมีตัวแปรของความไม่แน่นอนเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนมาให้เป็นโอกาสได้เช่นกัน เช่น เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ การค้าและบริการโดยใช้โมเดลใหม่ๆ ที่จะสามารถตอบโจทย์ความท้าทายที่เกิดขึ้นได้ และเพื่อหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ การค้า และการลงทุน สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา จึงได้จัดการประชุมนานาชาติดังกล่าว ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเสวนาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ที่พร้อมจะมาแบ่งปันและถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยหัวข้อหลักของงานเสวนา เน้นการแสวงหาอนาคตทางด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ปัญหาและอุปสรรคในการลงทุนของธุรกิจ และในขณะเดียวกันสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนด้วยเช่นกัน โดยกลุ่มธุรกิจที่สำคัญประกอบไปด้วย ภาคการเงิน ภาคเทคโนโลยี ภาคพลังงานสะอาด ภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตร และภาคการขนส่ง เป็นต้น ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปรียบเสมือนโรงงานของโลก เพราะเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้า และเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมใหม่ๆที่สำคัญของโลก ส่วนด้านการค้าระหว่างประเทศนั้น ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีข้อตกลงการค้าเสรีที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาคอื่นๆอีกหลายฉบับ อีกทั้งยังมีประชากรมากกว่า 60% ของจำนวนประชากรทั่วโลก ซึ่งเทียบได้กับเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น อินเดีย และ จีน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายในด้านความเชื่อและวัฒนธรรม ซึ่งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ย่อมส่งผลกระทบไปทั่วโลก และในทางกลับกัน หากเกิดการพัฒนาในการค้าและการลงทุนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็ย่อมจะส่งผลดีให้กับเศรษฐกิจโลกได้เช่นกัน

โดยงานประชุมดังกล่าว ได้รับเกียรติจากนาย สรรเสริญ สมะลาภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาเป็นประธานการเปิดงาน และมีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้อำนวยการและรองประธานบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด มหาชน จะมากล่าวในหัวข้อ “Welcome to the Future” โดยจะฉายภาพของเศรษฐกิจโลกในอนาคต หลังจากนั้นจะเป็นเวทีเสวนาในหัวข้อ “Future of Regional MNC” โดยมีผู้เข้าร่วมเสวนาเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำเสนอยุทธศาสตร์ในการทำธุรกิจในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

ส่วนในภาคบ่าย จะมีการเสวนาในสองหัวข้อที่สำคัญ คือ หัวข้อ “Future of Startup Business” และหัวข้อ “Future of Technology” ซึ่งผู้ร่วมเสวนานั้น มาจากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ startup และเทคโนโลยีนวัตกรรมสำหรับโลกอนาคต ที่พร้อมจะมาแบ่งปันเรื่องราวความท้าทายในการทำธุรกิจ หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี จะมากล่าวในหัวข้อ “The Future is now”ผ่านมุมมองและประสบการณ์ เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค นโยบายและกฎระเบียบใหม่ เพื่อสร้างระบบนิเวศน์เศรษฐกิจแบบใหม่ในภูมิภาค และปิดท้ายงานประชุม โดย นายมนู สิทธิประศาสตร์ ผู้อำนวยการ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) ซึ่งจะมากล่าวในหัวข้อ “Future of ITD” การประชุมครั้งนี้ มีความคาดหวังที่สำคัญในการหาข้อสรุป และข้อเสนอแนะอันเป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความเข้มแข็งในด้านการค้าและการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และนอกจากนี้การแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากผู้บริหารจะเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโอกาสใหม่ในการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต