“ลุงป้อม” นำทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจหารือภาคธุรกิจ ผนึกกำลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดนใต้

“ลุงป้อม” นำทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจหารือภาคธุรกิจ ผนึกกำลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจชายแดนใต้ รับการเมืองกับการพัฒนาต้องไปด้วยกัน เปิดกว้างนักการเมืองที่ประชาชนยอมรับร่วมพรรค อ้อนขอให้ภาคธุรกิจสนับสนุนพลังประชารัฐเดินหน้าพัฒนาเพื่อประชาชนต่อ

หลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) หรือที่เรียกกัน “ครม. ใต้” พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/ประธาน กพต. พร้อมนายสุชาติ ชมกลิ่น, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจ ประสานเชิญภาคเอกชนทั้งจากหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ชมรมธนาคารไทยและสภาเกษตรกรจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้ง ๕ จังหวัด ประมาณ ๓๐ คน เข้าพบหารือเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ภาคธุรกิจมีข้อเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนตามนโยบายเร่งด่วนของ กพต. เพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องและคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ โดยภาคเอกชนมีข้อเสนอรวมทั้งสิ้น ๑๑ เรื่อง โดย พลเอก ประวิตรฯ มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปจัดทำแผนและแนวทางการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรมเพื่อจะได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ภาคธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ เช่น การแก้ไขปัญหาแรงงานรายชั่วโมงและการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำเป็นรายชั่วโมง, การยกระดับสถานีรถไฟนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ให้เป็นสถานีขนส่งทางรางสายหลักของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการก่อสร้างถนนเชื่อมทั้งในและนอกประเทศ และการต่ออายุ Soft Loan และการจัดตั้งกองทุนเอสเอ็มอีประชารัฐพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เฉพาะกิจ เป็นต้น โดย พลเอก ประวิตรฯ กล่าวเน้นย้ำเพื่อความมั่นใจว่า ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องที่รับเรื่องของภาคเอกชนไปดำเนินการเป็นการเร่งด่วน จะต้องหาคำตอบและการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อมิให้เอกชนเสียโอกาส ที่สำคัญ เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องด่วนที่รัฐบาลและ กพต. ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชน ประชาชนต้องกินดี อยู่ดี มีงานทำ มีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น อะไรที่รัฐบาลส่งเสริมและสนับสนุนได้ ก็จะทำอย่างเต็มที่ ทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เอกชนเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจต่อไปได้อย่างเต็มที่เพื่อนำไปสู่การพัฒนาพื้นที่ต่อไป

ในระหว่างการประชุมหารือเรื่องดังกล่าวนั้น พลเอก ประวิตรฯ ได้กล่าวถึงแนวทางการจัดทำนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจระดับพื้นที่ที่ต้องการให้เข้าถึงประชาชน ทุกระดับ โดยเฉพาะเชื่อมโยงการพัฒนาทั้งระบบ ครบวงจรบนฐานที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นเรื่องหลักที่พรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มออกแบบกระบวนการพัฒนาตามศักยภาพที่มีอย่างเต็มที่ สามารถร่วมขบวนพัฒนาทั้งเอกชนและประชาชนไปพร้อมกัน ก็จะทำให้ความเหลื่อมล้ำมีน้อยที่สุด หรือ ไม่มีเลย เพราะทุกคนได้ประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม พร้อมนี้ ตนและผู้บริหารพรรคจะได้นำข้อเสนอของทุกภาคส่วนไปวิเคราะห์และจัดทำแนวนโยบายการทำงานที่เหมาะสม เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยสูงสุด ดังนั้น จึงอยากให้ทุกฝ่าย ทุกคนเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐที่พร้อมจะดูแลประชาชนให้ดีที่สุดและเลือกพรรคพลังประชารัฐมาเป็นรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทั้งนี้ พลเอก ประวิตรฯ ยังได้ฝากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐไว้ในใจของภาคเอกชนทุกคน ซึ่งแม้วันนี้จะยังไม่เปิดตัวชัดเจนว่าใครจะสมัครในเขตและจังหวัดใดในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องการเลือกผู้สมัครที่ประชาชนให้การยอมรับ สามารถทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ มีภาพลักษณ์ที่ดี ทุกด้าน สามารถทำงานเข้าถึงความทุกข์และยินดีแก้ไขความทุกข์ของประชาชนแบบคนในครอบครัวเดียวกัน ที่สำคัญต้องยืนเคียงข้างประชาชนได้ พรรคจึงต้องเลือกเฟ้นผู้สมัครอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายอาจจะเป็นผู้สมัครพรรคเก่า หรือ ผู้สมัครพรรคหน้าใหม่ หรือ ส.ส. ของพรรคการเมืองอื่นที่พรรคสังกัดเดิมมีมติไม่ส่งสมัครแล้วก็ได้เช่นที่ปรากฎตามหน้าข่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ในเขตพื้นที่ปัตตานี ซึ่งคิดว่าเป็นผู้มีมีอุดมการณ์สอดคล้องกับเจตนารมณ์การพัฒนาของพรรคและประชาชนให้การยอมรับ พรรคก็ยินดีรับเข้ามาเป็นครอบครัวพลังประชารัฐด้วยกัน ซึ่งในขณะนี้ ก็มีการพูดคุยและทาบทามกันบ้างแล้ว และเห็นว่าการเข้าพรรคพลังประชารัฐต้องมาด้วยใจและทำงานด้วยใจเช่นกัน ไม่ใช่มาเพื่อประโยชน์เฉพาะตน เฉพาะกลุ่ม แต่ทั้งหมดนั้น จะต้องทำเพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชนในพื้นที่เป็นสำคัญที่สุด ต้องอยู่เคียงข้างประชาชน พลเอก ประวิตรฯ กล่าวเน้นย้ำ