จากธุรกิจไอศกรีมตัก สู่แฟรนไชส์ไอศกรีมน่าลงทุน “ไผ่ทองสเตชั่น” ลุยตลาดเดลิเวอรี เสิร์ฟความอร่อยให้คุณถึงหน้าบ้าน

“ไผ่ทอง” ชื่อที่ใครหลายคนรู้จัก ด้วยภาพจำของรถเข็นไอศกรีมกะทิขายเร่ มาพร้อมกับเสียงกระดิ่ง เรียกให้รีบวิ่งออกไปหน้าบ้านเพื่อซื้อไอศกรีมทานยามบ่ายให้ชื่นใจ และรสชาติของไอศกรีมกะทิที่หอมหวานละมุนนุ่มลิ้น จึงทำให้ใครหลายคนต่างชื่นชอบและซื้อทานจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันไผ่ทองยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลายในปัจจุบัน วันนี้ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ไผ่ทองสเตชั่น” การปรับตัวจากธุรกิจไอศกรีมตัก สู่แฟรนไชส์ไอศกรีมน่าลงทุนในยุคนี้

ไผ่ทองไอสครีม (ต้นตำรับ) สู่ “ไผ่ทองสเตชั่น” รูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

อีกหนึ่งการปรับตัวของไผ่ทองในยุคแห่งดิจิทัลนี้ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองมากขึ้น ทางไผ่ทองได้เล็งเห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างหันมาใช้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะ Application Food Delivery ไผ่ทองต้นตำรับ ความอร่อยที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 50 ปี จึงได้ทำการขยายธุรกิจด้วยบริการรูปแบบใหม่ “Delivery” เพื่อเสิร์ฟความอร่อยถึงหน้าบ้าน ในชื่อ “ไผ่ทองสเตชั่น” นั่นเอง

คุณณิชา - ปุณณสิริ ชัยผาติกุล ผู้จัดการแผนกฝ่ายพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไผ่ทองสเตชั่น ได้กล่าวว่า เดิมทีคนจะรู้จักกับไผ่ทองต้นตำรับ ที่ขายในลักษณะรถเข็นแบบดั้งเดิม แต่ในปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไป มีตลาดออนไลน์เข้ามา เริ่มมีฟู้ดเดลิเวอรีและแอปพลิเคชันต่างๆ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคในการสั่งซื้ออาหารมากขึ้น จึงมองว่าตลาดช่องทางนี้เป็นที่น่าสนใจ จึงทำเป็นตัวแฟรนไชส์นี้ขึ้นมา และแก้เรื่อง Pain Point ในการหาทานไผ่ทองไอสครีมแบบดั้งเดิมที่เป็นรถเข็นได้ยาก เพื่อให้ลูกค้าไผ่ทองสามารถหาทานได้ง่ายขึ้น และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองที่เริ่มเปลี่ยนมาใช้บริการเดลิเวอรีมากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ คุณณิชา ยังได้พูดถึงจุดเด่นของไผ่ทองที่ทำให้ใครหลายคนนึกถึง นั่นก็คือ รสชาติของไอศกรีมกะทิแบบไทยๆ ที่ทุกคนต่างคุ้นเคยกันมา ซึ่งเอกลักษณ์คือการใช้กะทิเป็นส่วนผสมหลักและใช้เทคนิคพิเศษในการผลิต ทำให้เนื้อไอศกรีมมีความแน่นและเนียน คุณณิชา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลักๆ ที่ต่างกันก็คือ รูปแบบการขายไผ่ทองไอสครีม ต้นตำรับ - เป็นการขายแบบเชิงรุก อาศัยคนขายเร่เป็นตัวกลางในการนำสินค้าไปสู่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น รถเข็น พ่วงข้าง ไปขายตามจุดต่างๆ ที่มีผู้คนอาศัยหนาแน่น ทั้งห้างร้าน ออฟฟิศ โรงพยาบาล โรงเรียน เป็นต้น

ในขณะที่ ไผ่ทองสเตชั่น จะลุยตลาดเดลิเวอรี เป็นการขายเชิงรับ มีการขายหน้าร้านและออนไลน์พ่วงกัน มีเวลาเปิด ปิด ร้านชัดเจน อาศัย Delivery App ต่างๆ เป็นตัวกลางซื้อขายระหว่างร้านค้ากับผู้บริโภค ที่ต้องการเน้นความสะดวกและรวดเร็ว

ส่วนเรื่องรองก็จะเป็นเรื่องของสินค้า ขึ้นชื่อว่าไผ่ทองไอสครีมต้นตำรับ สินค้าที่ขาย อย่างไอศกรีม รสชาติก็จะเป็นรสคลาสสิค อย่างเช่น กะทิ ช็อกโกแลต หรือ สตรอว์เบอร์รี พร้อมท็อปปิ้งไทยๆ อย่าง ข้าวเหนียว ลูกชิด ถั่วลิสง เสิร์ฟมาในโคน หรือ ขนมปัง แบบทั่วไปที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่หากในร้านของไผ่ทองสเตชั่นนั้น สินค้าจะนำเสนอออกมาแบบสำเร็จรูป มีการใช้ลวดลายและสีสันบนบรรจุภัณฑ์ ทำให้ดูน่าซื้อน่าทานมากขึ้น พร้อมกับการนำเสนอรสชาติพรีเมี่ยมตามเทศกาล เพื่อให้ได้ลองกับรสชาติใหม่ๆ หมุนเวียนไป ในขนาดที่แตกต่างกัน เช่น ถ้วยขนาด 80 ก. / ขนาดไพนต์ 300 ก. เหมาะกับคนอยู่คอนโด ตู้เย็นเล็ก หรือแบบกล่อง ขนาด 1 กก. ในราคา 200 ต้นๆ เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นไซส์ที่คุ้มในราคาจับต้องได้ รวมถึงโคนแบบต่างๆ และท็อปปิ้งหลากหลาย สามารถนำมา Mix and Match จัดเซตให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

ทำไม "แฟรนไชส์ไผ่ทองสเตชั่น” ถึงน่าลงทุน ?

ไผ่ทองสเตชั่น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตนเอง แต่ยังไม่มีหน้าร้าน หรือกังวลเรื่องการบริหารจัดการที่ยุ่งยาก เนื่องจาก ไผ่ทองสเตชั่น ใช้พื้นที่ในการขายไม่มาก สามารถใช้พื้นที่หน้าบ้านตนเองเปิดร้านขายได้ มีระบบจัดการที่ง่าย และที่สำคัญทางไผ่ทองสเตชั่นมีประสบการณ์ในสายธุรกิจไอศกรีมมาอย่างยาวนาน มีประสบการณ์ในการเปิดศูนย์กระจายสินค้า ทำให้รู้วิธีในการจัดการกับสินค้า สามารถวิเคราะห์พื้นที่การขายและให้คำแนะนำได้ตลอดช่วงอายุธุรกิจแฟรนไชส์ได้เป็นอย่างดี และด้วยชื่อเสียงที่ดีในด้านรสชาติ ทำให้หลายคนต่างรู้จักไผ่ทองไอสครีมเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างตัวตน นอกจากนี้ ทางสำนักงานใหญ่ยังจัดแคมเปญการตลาดเพื่อสนับสนุนการขายให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ทุกเดือนอีกด้วย

คุณณิชา ยังได้กล่าวอีกว่า แฟรนไชส์ไผ่ทองสเตชั่น มีการจัดการหน้าร้านที่ง่าย ใช้เวลาไม่มากในการเตรียมร้าน ใครที่ไม่เคยค้าขายมาก่อนก็เริ่มได้ไม่ยาก สำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจและกำลังมองหาธุรกิจเสริม “ไผ่ทองสเตชั่น” ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มต้น เพราะสามารถใช้ที่อยู่อาศัยของตนเองเปิดธุรกิจแบบโฮมเดลิเวอรี สร้างมูลค่าและกำไรได้ โดยลงทุนน้อยที่สุด อีกทั้งมองว่าธุรกิจนี้ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อีกเช่นกัน

รูปแบบ “แฟรนไชส์ไผ่ทองสเตชั่น”

สำหรับแพ็กเกจแฟรนไชส์ แบ่งเป็นไซส์ S, M, L และ XL ราคาเริ่มต้นที่ 45,500 บาท รวมค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าสินค้าพร้อมขาย และค่าอุปกรณ์ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว รายละเอียด มีดังนี้

Package S ราคา 45,500 บาท
สิ่งที่ได้รับ ได้แก่
- ตู้แช่แข็ง ขนาด 10.2 คิว (ไม่ Wrap ตู้) 1 ตู้
- ธงญี่ปุ่น ขนาด 50 x 120 ซม. ครบชุด 1 ชุด
- สแตนดี้ ขนาด 60 x 160 ซม. 1 ชุด
- สื่อประชาสัมพันธ์ / ป้ายเมนู (ตลอดอายุสัญญา)
- สติ๊กเกอร์ไผ่ทองสเตชั่น ขนาด 60 x 60 ซม. 1 ชิ้น
- อุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โหลแก้วสำหรับใส่ท็อปปิ้ง ขนาด 1.1 ลิตร 4 ใบ, ขวดซอส 280 มล. 2 ขวด, กล่องสำหรับเก็บโคนไอศกรีม ขนาด 1.4 ลิตร จำนวน 3 ใบ, หม้ออุ่นอาหาร ขนาด 1.2 ลิตร 1 ใบ, ผ้ากันเปื้อนพิมพ์โลโก้ 1 ผืน และ ผ้าขาวสำหรับเช็ดโต๊ะ 1 ผืน
- สินค้าพร้อมขายได้ทันที (จำนวนตามแพ็กเกจการลงทุน)

Package M ราคา 57,900 บาท
สิ่งที่ได้รับ ได้แก่
- ตู้แช่แข็ง ขนาด 10.2 คิว (ไม่ Wrap ตู้) 1 ตู้
- เคาน์เตอร์คีออส (พับเก็บได้ พร้อมหุ้มสติ๊กเกอร์ ขนาด 120 x 20 ซม.) 1 ชุด
- ธงญี่ปุ่น ขนาด 50 x 120 ซม. ครบชุด 1 ชุด
- สแตนดี้ ขนาด 60 x 160 ซม. 1 ชุด
- สื่อประชาสัมพันธ์ / ป้ายเมนู (ตลอดอายุสัญญา)
- สติ๊กเกอร์ไผ่ทองสเตชั่น ขนาด 60 x 60 ซม. 1 ชิ้น
- อุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โหลแก้วสำหรับใส่ท็อปปิ้ง ขนาด 1.1 ลิตร 4 ใบ, ขวดซอส 280 มล. 2 ขวด, กล่องสำหรับเก็บโคนไอศกรีม ขนาด 1.5 ลิตร 2 ใบ, หม้ออุ่นอาหาร ขนาด 1.2 ลิตร 1 ใบ, หม้อทอดไร้น้ำมัน ขนาด 3 ลิตร รุ่นดิจิตอล 1 ใบ, ผ้ากันเปื้อนพิมพ์โลโก้ 1 ผืน และ ผ้าขาวสำหรับเช็ดโต๊ะ 1 ผืน
- สินค้าพร้อมขายได้ทันที (จำนวนตามแพ็กเกจการลงทุน)

Package L ราคา 65,900 บาท
สิ่งที่ได้รับ ได้แก่
- ตู้แช่แข็ง ขนาด 18.3 คิว ฝาบน 2 บาน 1 ตู้
- เคาน์เตอร์คีออส (พับเก็บได้ พร้อมหุ้มสติ๊กเกอร์) 1 ชุด
- ธงญี่ปุ่น ขนาด 50 x 120 ซม. ครบชุด 1 ชุด
- สแตนดี้ ขนาด 60 x 160 ซม. 1 ชุด
- สื่อประชาสัมพันธ์ / ป้ายเมนู (ตลอดอายุสัญญา)
- สติ๊กเกอร์ไผ่ทองสเตชั่น ขนาด 60 x 60 ซม. 1 ชิ้น
- อุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โหลแก้วสำหรับใส่ท็อปปิ้ง ขนาด 1.1 ลิตร 4 ใบ, ช้อนตักเครื่อง 4 คัน, ขวดซอส 280 มล. 2 ขวด, หม้ออุ่นอาหาร ขนาด 1.2 ลิตร 1 ใบ, หม้อทอดไร้น้ำมัน Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตร 1 ใบ, ผ้ากันเปื้อนพิมพ์โลโก้ 1 ผืน, ผ้าขาวสำหรับเช็ดโต๊ะ 1 ผืน และ กล่องสำหรับเก็บโคนไอศกรีม ขนาด 1.5 ลิตร 4 ใบ
- สินค้าพร้อมขายได้ทันที (จำนวนตามแพ็กเกจการลงทุน)

Package XL ราคา 107,990 บาท
สิ่งที่ได้รับ ได้แก่
- ตู้แช่แข็ง ขนาด 10.2 คิว (ไม่ Wrap ตู้) 1 ตู้
- ซุ้มขายของ (Kiosk) ขนาด 2 x 2 ม. ทรง Modern 1 หลัง
- ธงญี่ปุ่น ขนาด 50 x 120 ซม. ครบชุด
- สแตนดี้ ขนาด 60 x 160 ซม.
- สื่อประชาสัมพันธ์ / ป้ายเมนู (ตลอดอายุสัญญา)
- สติ๊กเกอร์ไผ่ทองสเตชั่น ขนาด 60 x 60 ซม. 1 ชิ้น
- อุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น โหลแก้วสำหรับใส่ท็อปปิ้ง ขนาด 1.1 ลิตร 6 ใบ, ขวดซอส 280 มล. 2 ขวด, หม้ออุ่นอาหาร ขนาด 1.2 ลิตร 1 ใบ, หม้อทอดไร้น้ำมัน Air Fryer ขนาด 3.5 ลิตร 1 ใบ, ผ้ากันเปื้อนพิมพ์โลโก้ 1 ผืน, ผ้าขาวสำหรับเช็ดโต๊ะ 1 ผืน และ กล่องสำหรับเก็บโคนไอศกรีม ขนาด 1.5 ลิตร 5 ใบ
- สินค้าพร้อมขายได้ทันที (จำนวนตามแพ็กเกจการลงทุน)

คุณณิชา ยังได้บอกอีกว่า ในทุกแพ็กเกจ ผู้ที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์กับเรา สิ่งที่เช็คเป็นเงื่อนไขอันดับแรก คือเรื่องของทำเลที่ตั้ง ถ้าเกิดลูกค้ามีพื้นที่เข้ามา จะเป็นบ้านตัวเองก็ดีหรือว่าเป็นหน้าร้าน เราจะเช็คพื้นที่ให้คุณก่อนว่าไปทับซ้อนกับลูกค้าท่านเดิมหรือไม่ อันดับที่สอง การทำธุรกิจต้องมีเงินทุน เพื่อให้ธุรกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และอันดับที่สาม เป็นเรื่องของเวลา ความเอาใจใส่ และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริการหลังการขายของเรา ขั้นตอนแรกจะมีการติดต่อแอปฯ เดลิเวอรีให้ มีการอินเสิร์ชรูปภาพเมนู สอนจัดเซตต่างๆ สอนแนะนำเมนู ถ้าเกิดว่ามีติดปัญหาจัดออเดอร์ให้ลูกค้าผิดถูกอย่างไร เราก็มีระบบหลังบ้านคอยเคลียร์ปัญหาให้ลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีค่าจีพีพิเศษ สำหรับแอปฯ เดลิเวอรีบางค่าย สำหรับร้านค้าใหม่จะมีการโปรโมทผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ให้ตามรอบ ในเรื่องของผลกำไรตอบแทน หลังจากหักต้นทุนสินค้าแล้ว หักค่าบริการจีพีแล้ว จะเหลือกำไรเฉลี่ย 30 ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการลงทุน ชั่วโมงการขาย หรือว่าช่องทางการขายก็เป็นปัจจัยเหมือนกัน

“พิเศษสุด! ลดค่าธรรมเนียมแรกเข้า 5,000 บาท”

นอกจากจะได้อุปกรณ์การขายที่ครบครันแล้ว ยังสามารถลดต้นทุนในการเริ่มต้นไปได้เยอะอีกด้วย สามารถติดต่อเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางไผ่ทองสเตชั่นกันได้เลย

สุดท้ายนี้ ก็ขอฝาก “ไผ่ทองสเตชั่น” แฟรนไชส์น่าลงทุน จากแบรนด์ไอศกรีมระดับตำนาน วันนี้เปิดขายแฟรนไชส์ ในรูปแบบใหม่ โดยได้ดึงเสน่ห์ของไอศกรีมรถเข็นมาพัฒนาสินค้าและบริการสู่ร้านค้า ที่ปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ตอบโจทย์คนเมืองและยุคดิจิทัล ด้วยบริการเดลิเวอรี สะดวก สบาย รอรับความอร่อยถึงหน้าบ้าน ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและรสชาติที่คุ้นเคย เพิ่มเติมด้วยท็อปปิ้งและโคนไอศกรีมอย่างหลากหลาย ที่ทางแบรนด์คัดสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินไปกับการทานไอศกรีม ดังนั้น "แฟรนไชส์ไผ่ทองสเตชั่น" จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจแฟรนไชส์น่าลงทุน ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจหรือหาอาชีพเสริม ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 50 สาขา ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด มาร่วมสร้างรายได้ไปกับไผ่ทองสเตชั่นได้แล้ววันนี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลตามช่องทางที่ให้ไว้ได้เลย

ติดต่อ
สำนักงานใหญ่ บริษัท หมีบิน เวิลด์ จำกัด
เลขที่ 1/27 หมู่ที่ 7, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74130
โทร : 099-195-6665
Email : MeebinWorld@gmail.com
Facebook : @PaithongIcecreamStation
IG : @paithongstation
Line OA : @paithongstation

Facebook : https://www.facebook.com/PaithongIcecreamStation/