สสว.- ส.อ.ท. ผุดโครงการส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลสู่ระบบจัดจ้างรัฐ ยกระดับอุตฯดิจิทัลไทย-ให้แต้มต่อ เอสเอ็มอี บิดงาน

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซาเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเกิดการชะลอตัวตามไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ มีกำลังซื้อลดลง รัฐบาลทราบถึงปัญหาและเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยออกกฎกระทรวง กำหนดพัสดุ และวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน พ.ศ. 2563 ขึ้น เพื่อให้หน่วยงานของรัฐเป็นตลาดสำคัญ โดยการส่งเสริมเอสเอ็มอี เข้าสู่ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมากขึ้น

และเพื่อเป็นการเร่งส่งเสริมให้เอสเอ็มอี เข้าสู่ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐนั้น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จึงได้จัดทำโครงการพัฒนายกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลและธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อเข้าสู่ระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในการเข้าถึงระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐแก่เอสเอ็มอี อัพเดทแนวโน้ม และโอกาสการเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของสินค้าดิจิทัล และพัฒนายกระดับผู้ประกอบการเพื่อเตรียมความพร้อมเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ

“ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกว่า 26,591 ราย ซึ่งหากภาครัฐให้การส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเต็มที่แล้ว จะสามารถช่วยยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ และยังช่วยยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย ให้สามารถแข่งขันได้ พร้อมทั้งช่วยสร้างการเติบโตให้กับผู้ประกอบการได้ในระยะยาวด้วย” นายวีระพงศ์ กล่าว

สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้เข้าร่วมกิจกรรมและรับสิทธิประโยชน์ ได้แก่ 1.การอบรม อาทิ ความรู้เกี่ยวกับกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน โอกาสและเทรนด์ด้านการตลาดของอุตสาหกรรมดิจิทัล และระเบียบขั้นตอนการยื่นเสนองานภาครัฐ 2. กิจกรรมเวิร์คช็อป การลงทะเบียนระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) 3.กิจกรรมยกระดับศักยภาพที่จำเป็น อาทิ การขอมาตรฐาน ISO/IEC 29, การจัดเตรียมข้อเสนอโครงการ, การบริหารโครงการ, การส่งมอบงาน, การบริหารทางการเงิน, การบริหารหลังการขาย 4. เชื่อมโยงคู่ค้าหรือแหล่งเงินทุน

นอกจากนี้ยังจะได้สิทธิประโยชน์อื่นๆ อาทิ ได้รับคำแนะนำการขึ้นทะเบียนสินค้าที่ผลิตในประเทศ Made in Thailand เพื่อเพิ่มแต้มต่อในการเสนองานภาครัฐ, โอกาสได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโชว์ศักยภาพและจัดแสดงสินค้า บริการในงาน FTI Expo 2022 , และงาน SME GP DAY พร้อมทั้งได้รับข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมดิจิทัล และโอกาสในการยื่นเสนอโครงการภาครัฐ

สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ติดต่อได้ที่ สถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (SMI) โทร. 02 345 1188 หรือ สายด่วน 1453 Facebook fanpage : facebook.com/smipage และเว็บไซต์ www.thaismegp.com

Facebook : facebook.com/smipage