Zaapi ระดมทุนเพิ่ม 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจขนาดเล็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านแอพอีคอมเมิร์ซบนมือถือ

● Zaapi ระดมทุนระยะเริ่มต้นจำนวน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการสนับสนุนของกลุ่มนักลงทุน GFC, Flourish Ventures, และ Partech พร้อมกับได้รับความร่วมมือจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำ อาทิ 1982 Ventures, Kaya Founders, Iterative, Sequoia Sprout และ Sketchnote Partners หรือ Invertidos ทั้งยังมีกลุ่มนักลงทุนใจดีอย่าง Kunal Shah ผู้ก่อตั้ง CRED บริษัทฟินเทคแถวหน้าของอินเดีย และ Summit Shah ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Dukaan แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ด้วย

● Zaapi มีการระดมทุนไปก่อนหน้านี้เป็นจำนวนเงิน 5 แสนเหรียญสหรัฐ ภายใต้การสนับสนุนของ Flash Ventures ในเดือนมีนาคมปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบัน Zaapi ระดมทุนไปแล้วถึง 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

● บริษัท Zaapi เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา และปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายย่อยราว 10,000 รายทั่วประเทศเข้าร่วมแพลตฟอร์มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Zaapi แอปพลิเคชันมือถือที่ช่วยให้ร้านค้าขนาดเล็กสร้างเว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซ ขายของออนไลน์ได้ภายในไม่กี่วินาที ได้ระดมทุนในระยะเริ่มต้น (Seed Funding) ถึง 4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมลงทุนชั้นนำอย่าง GFC, Flourish Ventures, และ Partech นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักลงทุนสถาบันแถวหน้าอย่าง 1982 Ventures, Kaya Founders, Iterative, Sequoia Sprout และ Sketchnote Partners หรือ Invertidos ที่ร่วมผลักดันและให้การสนับสนุนเงินทุน Zaapi ในครั้งนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง Zaapi ได้รับความร่วมมือจาก Flash Ventures บริษัทลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ GFC เป็นเงินทุนถึง 5 แสนเหรียญสหรัฐในช่วงเสนอไอเดียธุรกิจแก่นักลงทุน (Pre-Seed Funding) เมื่อเดือนมีนาคม ปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา โดยเงินทุนจำนวนนี้คือการผลักดันครั้งสำคัญที่ทำให้ Zaapi เปิดตัวในประเทศไทยได้สำเร็จเมื่อเดือนสิงหาคม และการระดมทุนครั้งล่าสุดจะช่วยให้ Zaapi สร้างแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซบนมือถือที่ดีที่สุดในภูมิภาคได้อย่างแข็งแกร่ง

Wilfried Buiron ผู้ก่อตั้งมากประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซ และสร้างแบรนด์ขายตรงถึงผู้บริโภค (D2C) สำเร็จมาแล้ว ได้เปิดตัว Zaapi ในปี พ.ศ. 2564 ด้วยพันธกิจที่มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลคอมเมิร์ซให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Wilfried Buiron ผู้ก่อตั้ง Zaapi ยังกล่าวไว้อีกว่า “Zaapi ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงจุดเปลี่ยนของการค้าขายที่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างต้องปรับตัวเข้าหาอีคอมเมิร์ซ โดยมีเทรนด์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคใหญ่ ๆ 2 เทรนด์ด้วยกัน คือ อัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตในมือถือที่พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการที่ธุรกิจแบบดั้งเดิมต้องชะงักในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ชัดมากในช่วงโควิดที่ผ่านมา”

ปัจจุบัน Zaapi ให้บริการแอปฯ และแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ MSME ให้เจ้าของธุรกิจสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วจากโทรศัพท์มือถือ โดยรูปแบบอีคอมเมิร์ซนี้จะยังเป็นบริการหลักของ Zaapi ในอนาคตอันใกล้นี้ เนื่องจากทางบริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสใหม่ ๆ ที่จะช่วยผลักดันให้ Zaapi ขยายการเติบโตได้มากขึ้นไปอีก อาทิ การซื้อขายสินค้าและบริการในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย (Social Commerce) และการผสานเครื่องมือการตลาดต่าง ๆ (Marketing Tool Integration) อย่างไรก็ตาม Zaapi มีวิสัยทัศน์ในการค่อย ๆ ขับเคลื่อนแกนสำคัญของธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSME) เข้าสู่วงการดิจิทัลในระยะยาว และเป้าหมายสูงสุดของ Zaapi ก็คือ ช่วยให้ธุรกิจ MSME มีโซลูชันจัดการธุรกิจออนไลน์ได้แบบครบจบในที่เดียว

“เรายินดีอย่างยิ่งที่มีโอกาสต้อนรับ และร่วมงานกับนักลงทุนใหม่ของบริษัทเราอย่าง GFC, Flourish และ Partech ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยให้เราสร้างแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ MSME ได้ง่ายขึ้นและช่วยให้เราขยายการเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน” Wilfred Buiron กล่าว และยังเสริมอีกว่า “การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดทำให้ผู้ประกอบการ MSME กว่า 100 ล้านรายจำเป็นต้องปรับตัวและรับเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานในร้าน และเราก็จะยืนหยัดอยู่เคียงข้างตลอดการเดินทางของผู้ประกอบการเหล่านี้”

อีคอมเมิร์ซ และ MSME ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คาดว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดอีคอมเมิร์ซของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จาก 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2563 ไปเป็น 300 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งชี้ให้เห็นชัดว่ามีโอกาสมหาศาลในโลกอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้ จากการศึกษากลุ่มธุรกิจ MSME ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พบว่าปัจจุบันมีเพียงครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) และมีเพียงประมาณ 20% ของผู้ประกอบการทั้งหมดเท่านั้นที่ใช้เครื่องมือดิจิทัลในการทำธุรกิจ ซึ่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มที่จะเผชิญการก้าวเข้าสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว โดยมีการคาดการณ์ว่าภาคส่วนนี้จะมีมูลค่าของสูงถึง 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี พ.ศ. 2568

นักลงทุนแถวหน้า

“วิสัยทัศน์ของ Zaapi ที่จะช่วยขับเคลื่อนกลุ่มผู้ประกอบการ MSME ให้ขยายเข้าสู่โลกออนไลน์และเพิ่มรายได้ที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนั้นจะช่วยเสริมศักยภาพและพลิกโฉมธุรกิจดังกล่าวให้ดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเราก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นวิสัยทัศน์ที่ว่านี้เกิดขึ้นจริง ๆ ” Lorenzo Franzi หุ้นส่วนของ GFC กล่าว และยังระบุอีกว่า “เราประทับใจในตัว Wilfred และความสามารถในการทำงานของทีมมาโดยตลอด และเราก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูการเติบโตแบบก้าวกระโดดของทีม และพร้อมสนับสนุนความสำเร็จของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในตลาดที่เต็มไปด้วยโอกาสนี้”

“การจับมือร่วมลงทุนกับ Zaapi สอดคล้องกับวิทยานิพนธ์การลงทุน (Investment Thesis) ของเราที่มุ่งส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการรายเล็กในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ซึ่ง Zaapi ก็เล็งเห็นและให้ความสำคัญกับความต้องการของตลาดเป้าหมายขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กำลังขยับขยายไปอย่างรวดเร็วนี้ได้เป็นอย่างดี” Smita Aggarwal ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลกที่ Flourish Ventures กล่าว “เราตื่นเต้นที่จะได้เห็น Zaapi สร้างโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ พร้อม ๆ กับให้บริการผู้ประกอบการรายย่อยและช่วยให้พวกเขาเติบโตต่อไป”

“กลุ่มผู้ประกอบการ MSME คือหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการเอง Wilfred ก็ได้สร้างทีมที่เข้าใจความต้องการของธุรกิจเหล่านี้อย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้ก้าวเข้าสู่เส้นทางดิจิทัล พร้อมกับเติบโตและปรับตัวได้ในทุกสถานการณ์” Nicolas El Baze ผู้ถือหุ้นกรุ๊ป Partech กล่าว

สำหรับผู้สนใจใช้บริการเปิดเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ Zaapi สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านทาง https://www.zaapi.com/

เกี่ยวกับ Zaapi

Zaapi คือผู้ให้บริการสร้าง เว็บไซต์ขายของออนไลน์ มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างดิจิทัลคอมเมิร์ซให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ MSME ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่การซื้อขายไปจนถึงการเงิน Zaapi มีเป้าหมายที่จะปรับเปลี่ยนและยกระดับฟังก์ชันการทำงานสำคัญ ๆ ทั้งหมดให้เป็นดิจิทัล ซึ่งขั้นตอนแรกในการเริ่มทำภารกิจนี้ของเราก็คือ แอปพลิเคชันมือถือ ที่ช่วยให้ทุกคนสร้างร้านค้าออนไลน์ได้ง่าย ๆ และเริ่มขายสินค้าได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที และหลังจากเปิดตัวไป 6 เดือนในประเทศแรก เราก็ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของธุรกิจราว 10,000 รายทั่วประเทศไทย https://www.zaapi.com

เกี่ยวกับ Flourish Ventures

Flourish Ventures สนับสนุนผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาพทางการเงิน ความมั่งคั่งทางการเงินส่วนบุคคล และธุรกิจขนาดเล็ก ด้วยเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐภายใต้การบริหารจัดการ Flourish Ventures ถือเป็นบริษัทลงทุนด้านฟินเทคระยะเริ่มต้นที่ใช้โมเดลการลงทุนในระยะยาวและกระจายโอกาสทางการเงินอย่างเท่าเทียม ทีมงานของ Flourish เข้าใจถึงความหลากหลายในการลงทุนอย่างถ่องแท้และร่วมมือกับหุ้นส่วนสตาร์ทอัพฟินเทคหลายแห่งทั่วโลกที่ให้บริการด้านการเงินดิจิทัลหลากหลายรูปแบบ อาทิ แพลตฟอร์มทางการเงินแบบฝัง, การปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก, อินชัวร์เทค (Insurtech), อะกริเทค (Agritech) และ นีโอ แบงก์กิ้ง (Neobanking) ในเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ Flourish ได้ลงทุนไปกว่า 20 บริษัท ได้แก่ Apnaklub, Aqua Connect, Grab Finance, Gramcover, Qoala, ShopUp, TaniHub, Toffee, Yap, และ Zest โดย Flourish ทำงานร่วมกับผู้นำทางความคิดในด้านการวิจัยค้นคว้า ด้านนโยบาย และด้านระเบียบข้อบังคับ เพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้ด้อยโอกาสและสร้างสังคมเศรษฐกิจที่มีความเท่าเทียมและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากยิ่งขึ้น https://flourishventures.com/

เกี่ยวกับ GFC

เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่ Global Founders Capital ได้ยืนหยัดเคียงข้างและให้การสนับสนุนผู้ประกอบการทั่วโลก ทีมงานของเราซึ่งประกอบไปด้วยผู้บริหาร และผู้ประกอบการล้วนแต่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและส่งเสริมเทคโนโลยี กว่า 20 ปีที่ผ่านมา เราได้สนับสนุนการเติบโตของบริษัทต่าง ๆ ไปแล้วกว่า 500 แห่งทั่วโลก ซึ่งบริษัทที่เรามีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จก็ได้แก่ Facebook, Linkedin, Pennylane, Ankorstore, Sunday, Zalando, HelloFresh, Eventbrite, Funding Circle, Slack, Revolut และ Canva

เกี่ยวกับ Partech

Partech ได้รับการก่อตั้งในเมืองซานฟรานซิสโกและกรุงปารีส เป็นหนึ่งในกลุ่มนักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในโลก โดยผสานเงินทุน ประสบการณ์ด้านการดำเนินงาน และการส่งเสริมด้านกลยุทธ์ในระยะเริ่มต้น ระยะลงทุน และระยะเติบโต ปัจจุบัน Partech สนับสนุนกว่า 200 บริษัทใน 30 กว่าประเทศทั่วโลก ซึ่งมีถึง 14 บริษัทที่มีมูลค่ากว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ Alan, Bolt, Cazoo, Jellysmack, Made.com, ManoMano, Merama, , People.ai, Rohlik, Sorare, Toss, Wave, WorldRemit และ Xendit