ขยายฐานรากของการศึกษา เพิ่มโอกาส สร้างการเรียนรู้ กับ ชุมชนบ้านคอกช้างพัฒนา

      ชุมชนบ้านคอกช้างพัฒนา อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นที่ตั้งของ ไร่องุ่นมอนซูน แวลลีย์ ภายใต้การบริหารงานของ กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาและช่วยเหลือสังคมด้วยโครงการต่างๆ มากมายในพื้นที่ โดยหนึ่งในพันธกิจด้านการพัฒนาสังคม คือ ระบบการศึกษา เกิดเป็น “โครงการพัฒนาชุมชนรอบไร่องุ่น” โดยเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนบ้านคอกช้างพัฒนา และให้สอดคล้องกับการเรียนการสอนเยาวชน เกิดเป็น ห้องสมุดบ้านดิน เฉลิม-ดารณี อยู่วิทยา ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2553 แต่ด้วยระยะเวลาที่ผ่านไปห้องสมุดทรุดโทรม กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ พร้อมเข้ามาปรับปรุงห้องสมุด-เพิ่มอุปกรณ์ และส่งมอบเมื่อเดือนมีนาคม 2564 เพื่อให้เด็กมีสถานที่อ่านหนังสือและเพิ่มพื้นที่การทำกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงเพิ่มโอกาสให้คนในชุมชนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน

      กว่า 1 ทศวรรษ แห่งการพัฒนา กลุ่มบริษัท สยาม ไวเนอรี่ มุ่งสร้างโอกาสให้คนในพื้นที่มีอาชีพ ด้วยการสนับสนุนให้คนในชุมชนมาทำงานที่ไร่ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์และลดจำนวนช้างบนท้องถนนในเมือง กับโครงการ “บ้านคอกช้าง เอเลเฟนท์ แซงชัวรี” โดยมีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลช้างและช่วยดูแลการออกแบบพื้นที่คอกขนาดใหญ่ เพื่อให้เป็นบ้านของช้างตามธรรมชาติที่มีความความปลอดภัยต่อช้างและผู้มาเยือน การริเริ่ม “โครงการพัฒนาโพรงรังเทียมของนกเงือกจากถังไวน์เก่า” เพื่อการอนุรักษ์นกเงือก อนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งโครงการนี้ประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์นกเงือกในประเทศไทย และสร้างสมดุลแก่ผืนป่าทั่วประเทศ

      วาริท อยู่วิทยา รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ภายใต้แนวคิดและความเชื่อที่ว่า สังคมที่ดีต้องมาจากรากฐานที่ดี เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาสังคมด้วยโครงการต่างๆมากมาย โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น เรารับฟังปัญหาและร่วมสนับสนุนทั้งทุนทรัพย์ สิ่งของ และเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่องการต่อยอดโครงการพัฒนาชุมชนรอบไร่องุ่น เป็นอีกหนึ่งโครงการในพื้นที่บ้านคอกช้างพัฒนา ที่ขยายโอกาสทางการศึกษา และการพึ่งพาตนเอง เพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับเด็กและคนชุมชน ได้เรียนรู้ได้ฝึกฝนการพึ่งพาตนเองอย่างถูกวิธี และขยายโอกาสสู่ผู้ปกครองเพื่อนำไปพัฒนาเป็นอาชีพ บนพื้นฐานการพึ่งพาตนเองตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีในการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งให้เยาวชนและคนในชุมชนได้ความรู้จากการทำเกษตรอินทรีย์และนำไปต่อยอดสร้างอาชีพเสริมให้กับครอบครัว พร้อมกับปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์และเห็นความสำคัญของการดำรงอยู่ของระบบนิเวศในพื้นที่อาศัย การปลูกต้นไม้ การอนุรักษ์พันธุ์ไม้และสัตว์หายาก เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเป็นแนวคิดที่ดีที่จะถูกสืบทอดโดยคนรุ่นหลังสืบต่อไป