สุริยะ”ปลื้ม เขตประกอบการฯเกษตร-ชีวภาพแห่งแรกของเอเชีย เกิดการจ้างงานในพื้นที่ กว่า 8,000 คน ปักหมุดสู่เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงของไทย

       สุริยะ”ปลื้ม เขตประกอบการฯเกษตร-ชีวภาพแห่งแรกของเอเชีย เกิดการจ้างงานในพื้นที่ กว่า 8,000 คน ปักหมุดสู่เทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงของไทย

      นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพูดคุยรับฟังปัญหากับพี่น้องเกษตรกรภาคตะวันออกและสมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออก พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมเขตประกอบการอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์น อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี โดยมี นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จังหวัดชลบุรีและรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รอต้อนรับและนำคณะเข้าเยี่ยมชมผลการดำเนินโครงการดังกล่าว โดยนายสุริยะได้เปิดเผยว่า โครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์น เป็น Bio-Circular Green Complex แห่งแรกของเอเชีย ซึ่งได้มอบหมายให้นาย นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จังหวัดชลบุรี เป็นผู้ขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินโครงการดังกล่าวให้เกิดผล เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ โดยนายสรวุฒิ มีบทบาทและเป็นกำลังสำคัญ ในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวเป็นอย่างมาก
สำหรับโครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์นนั้น ภายในประกอบด้วยโรงงานเกษตรแปรรูปปาล์มน้ำมัน ยางพารา และหญ้าเนเปีย พร้อมอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ผลิตเยื่อกระดาษและบรรจุภัณฑ์ มูลค่าการลงทุนในเฟสแรกประมาณ 20,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นความสำเร็จที่ภาคเอกชนและภาครัฐร่วมกันผลักดัน ซึ่งตอบสนองนโยบายรัฐบาลหลายด้าน ได้แก่ 1. การลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) 2. การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) สาขาเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และ 3. การเชื่อมโยงภาคเกษตรกรรมกับภาคอุตสาหกรรม และ 4. เป็นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เต็มรูปแบบไม่มีการปล่อยของเสียใด ๆ ออกนอกพื้นที่

       “โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาผลผลิตที่มีคุณภาพเพื่อป้อนสู่อุตสาหกรรมเกษตรชีวภาพ และเป็นตัวอย่างที่ดีของการต่อยอดอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ไปสู่อุตสาหกรรมเกษตรชีวภาพที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และเป็นโครงการ S-Curve สาขาเกษตรชีวภาพขนาดใหญ่ลำดับแรกของประเทศ โครงการดังกล่าวนอกจากจะมีการลงทุนใหม่แล้ว ยังเกิดจ้างแรงงานในพื้นที่และเครือข่ายกว่า 8,000 อัตราภายใน 3 ปี (2566) และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรในพื้นที่โดยรอบโรงงานกว่า 2.5 ล้านไร่” นายสุริยะกล่าว

       นายสมชาย โกกนุทาภรณ์ ผู้บริหารบริษัท ไทยอีสเทิร์น อินดัสเตรียล แลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาโครงการเขตอุตสาหกรรมไทยอีสเทิร์น มีแนวคิดในการออกแบบและพัฒนาโครงการฯ ด้วยระบบการบริหารจัดการทรัพยากรภายในอย่างเกื้อกูล (Symbiosis) ที่สามารถแลกเปลี่ยนทั้งด้านพลังงาน วัตถุดิบ วัสดุเหลือใช้ และกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอย่างเหมาะสม (Sharing Economy) และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Optimized) โดยปราศจากการปล่อยของเสีย (Zero Waste) และไม่ปล่อยมลภาวะตลอดทั้งกระบวนการผลิต (Zero Discharge) โดยใช้หลักการสร้างมูลค่าเพิ่มพร้อมกับการลดต้นทุนที่เป็นรูปธรรม (Transform Zero Waste to Waste to Value) ด้วยการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง มาประยุกต์ใช้

      ไทยอีสเทิร์นฯ ตั้งอยู่บนถนนสาย 344 ต.เขาซก อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี อยู่บนเส้นทางยุทธศาสตร์การเกษตรของภาคตะวันออก มีพื้นที่โครงการฯ ใช้พื้นที่เฟสแรกแล้วประมาณ 30% จำนวน 725 ไร่ แบ่งโซนออกเป็น พื้นที่อุตสาหกรรม 510 ไร่ และพื้นที่สาธารณูปโภค 215 ไร่ และพื้นที่สีเขียวมากกว่า 10 % จึงสอดคล้องตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสากล และในอนาคตสามารถรองรับพืชเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน พืชพลังงาน อาหาร ผลไม้ พืชสมุนไพร ตลอดจนวัตถุดิบอื่นๆ ทางชีวภาพ ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแปรรูปทางการเกษตรทั้งระบบในภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ รวมถึงภาคใต้ตอนบน

       ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้โครงการดังกล่าวเป็นศูนย์กลางของการสร้างบุคลากร เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อรองรับการขยายตัวในภาคอุตสาหกรรมเกษตรชีวภาพขั้นปลายในอนาคต ที่จะพัฒนาจนถึงศูนย์กลางบูรณาการการเกษตรชีวการแพทย์ระดับ Bio Medical Hub (เครื่องมือแพทย์ ยา เครื่องสำอางที่ผลิตจากชีวภาพ) ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มสูงอยู่ระดับบนของห่วงโซ่การผลิต ซึ่งจะเป็นการลงทุนในเฟสถัดไปของโครงการ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา หลายหน่วยงานภาครัฐได้ร่วมมือกันขับเคลื่อน เช่น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) จังหวัดชลบุรี อนุมัติโครงการฯ ส่วนกรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณาอนุญาตให้ตั้งโครงการฯ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ให้การส่งเสริมการลงทุนสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับนักลงทุน เป็นต้น